จากเหตุเพลิงไหม้โรงเก็บสารเคมีโรงงานแห่งหนึ่ง ใน อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ตั้งแต่ช่วงเช้าของเมื่อวานนี้ (22 เมษายน) ส่งผลให้ชาวบ้านจากพื้นที่ต.บางบุตร และต.หนองบัว ต้องพากันอพยพ ออกจากบ้านไปพักอาศัยบ้านญาติพี่น้องที่อยู่ห่างไกลจากโรงงานดังกล่าว ขณะที่ชาวบ้าน กว่า 100 คน ที่ไม่ได้ไปพักอาศัยบ้านญาติพี่น้อง ก็ต้องพาครอบครัวมาพักหลับนอน ที่ศูนย์อพยพ ซึ่งถูกจัดไว้ที่ อบต.บางบุตร และ อบต.หนองบัว โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกตลอด 24 ชั่วโมง โดยผู้ป่วยติดเตียง และผู้มีอาการป่วย ได้รับการเคลื่อนย้ายเข้าพักที่โรงพยาบาลบ้านค่าย
ทั้งนี้ ชาวบ้านบอกว่า เหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนี้ สร้างความหวั่นวิตก เพราะได้รับผลกระทบจากฝุ่นควันที่ลอยเต็มท้องฟ้า ต้องปิดบ้านเรือนแล้วหนีออกมา เพราะเกรงว่าหากผงฝุ่นตกลงมาถูกร่างกาย หรือสูดดมจะเกิดอันตรายได้ บางรายก็เริ่มมีอาการแสบจมูก แสบคอ
ล่าสุด ช่วงเช้าที่ผ่านมาสามารถควบคุมเพลิงอยู่ในวงจำกัดได้แล้วเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ และได้ฉีดโฟมดับไฟในจุดที่ยังลุกไหม้ สามารถดับได้แล้วประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์เจ้าหน้าที่ต้องฉีดน้ำเลี้ยงไว้ตลอดทั้งคืน เพื่อไม่ให้ลุกลามเพิ่ม และเพื่อให้สามารถดับเพลิงได้ทั้งหมด
สำหรับโรงงานแห่งนี้ เป็นโรงงานที่ถูกสั่งปิดไปตั้งนานแล้ว ชาวบ้านสังเกตว่า โรงงานแห่งนี้ลักลอบนำกากของเสียอันตรายมาเก็บไว้ที่โรงงานจำนวนมาก ชาวบ้านเคยขอให้กรมโรงงานและอุตสาหกรรมออกมาจัดการกับโรงงานแห่งนี้ และได้มีการฟ้องร้องกับทางโรงงาน จนศาลตัดสินให้โรงงานกำจัดและขนย้ายกากของเสียออกไป ตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2564 โดยชาวบ้านยืนยันว่า กากของเสียอันตรายที่ยังอยู่ในโรงงานแทบจะไม่พร่องลงไปเลย ขณะที่ทางอุตสาหกรรมจังหวัดระยองชี้แจงว่า สาเหตุที่ยังมีกากของเสียอันตรายอยู่ภายในโรงงานจำนวนมาก เป็นเพราะอยู่ระหว่างการดำเนินการกำจัดจากบริษัทที่ว่าจ้างมาอีกที
ส่วนการปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อมนั้น ทางศูนย์ควบคุมมลพิษ จ.ระยอง ได้ติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศโดยรอบบริเวณพื้นที่โรงงาน พบไอระเหยสารเคมีเล็กน้อย ห่างจากโรงงานไปทางด้านทิศเหนือประมาณ 4 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม ผลการตรวจสอบคุณภาพอากาศเบื้องต้น บริเวณชุมชนโดยรอบ โดยเฉพาะด้านท้ายลมทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือและทิศเหนือของพื้นที่โรงงาน พบว่ายังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพ
