เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. เพจเฟซบุ๊ก สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจนครบาล จำกัด รายงานข่าวเศร้าการสูญเสีย ส.ต.อ.อนวัช ผลเกิด ผบ.หมู่ (ป.) สน.ยานนาวา ที่เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุขณะปฏิบัติหน้าที่ ไล่ติดตามรถจักรยานยนต์ต้องสงสัย โดยเหตุเกิดช่วงเวลา 03.00 น.ของวันที่ 5 มิ.ย.2566 ส.ต.อ. อนวัช ติดตามรถจักรยานยนต์ของผู้ต้องสงสัยหลบหนีจากการเรียกตรวจค้น เมื่อถึงจุดเกิดเหตุมีรถแท็กซี่กลับรถกะทันหัน เป็นเหตุให้รถจักรยานยนต์ซึ่งมี ส.ต.อ.อนวัช ผลเกิด เป็นผู้โดยสารพุ่งชน ทำให้นายตำรวจที่ขับรถได้รับบาดเจ็บสาหัส ส.ต.อ.อนวัช บาดเจ็บสาหัสเข้ารับการรักษาตัวและเสียชีวิตในเวลาต่อมา (12 มิ.ย.66)
ล่าสุดที่ศาลา 2 วัดโพธิญาณ ต.หัวรอ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ครอบครัวของ ส.ต.อ. อนวัช ผลเกิด ผบ.หมู่ (ป.) สน.ยานนาวา ได้จัดสถานที่ตั้งสวดอภิธรรม โดยมีผู้บังคับบัญชาได้เดินทางมาเพื่อเตรียมรดน้ำศพในช่วงบ่ายวันนี้ ขณะที่ญาติยังคงอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจในการจากไปของตำรวจหนุ่มในครั้งนี้
สำหรับ บรรยากาศรดน้ำศพ ส.ต.อ.อนวัช ที่ศาลา2 วัดโพธิญาณ เป็นไปด้วยความโศกเศร้า มีผู้บังคับบัญชา เพื่อนร่วมงาน จาก สน.ยานนาวา พร้อมด้วยครอบครัวญาติพี่น้องและแฟนสาว จัดสถานที่รดน้ำศพ ก่อนที่จะตั้งสวดอภิธรรมเป็นเวลา 3 คืน และจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพในวันเสาร์ที่ 17 มิ.ย.2566
นายนรินทร์ ผลเกิด อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7/38 ถ.สุพรรณกัลยา ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก พ่อของ ส.ต.อ.อนวัช ผลเกิด กล่าวด้วยอาการโศกเศร้าว่า ลูกชายเป็นเด็กดี เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ เป็นคนเงียบๆ ไม่เที่ยวเตร่ เป็นเสาหลักของครอบครัว มีพี่ชาย 1 คน รับข้าราชการทหาร ลูกชายใฝ่ฝันว่าอยากจะเป็นตำรวจ ตอนเรียนอยู่ปี 3 ได้ไปสอบตำรวจปรากฏว่าสอบติดแต่วุฒิที่เรียนไม่ตรง จึงไปลงเรียนนิติศาสตร์ใหม่ จนตอนนี้เรียนจบแล้ว กำลังจะรับปริญญาในวันที่ 25 มิ.ย. นี้
ทั้งนี้ ลูกชายวางแพลนไว้หมดแล้วว่าวันที่ 24 มิ.ย.ตนและครอบครัวจะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ไปรับปริญญาลูกชาย ในวันที่ 25 มิ.ย.จากนั้นวันที่ 26-27 มิ.ย.ลูกชายได้จองที่พักที่ทะเลไว้จะไปฉลองด้วยกัน แต่ตอนนี้ฝันสลายแล้ว เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว แต่ก็คิดว่าลูกชายคงทำบุญด้วยกันมาเท่านี้ อย่างน้อยลูกชายก็ได้ทำตามความฝันได้สำเร็จ เขาได้เป็นตำรวจสมความฝันใฝ่ของเขา และที่สำคัญมีเพื่อนร่วมงานที่ดี มีเจ้านายที่ดี ตั้งแต่วันที่ครอบครัวทราบข่าวร้าย เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ทางเจ้านายของลูกก็ดูแลตนและครอบครัวเป็นอย่างดีมาตลอด
ขณะที่ น.ส.สุวิชาดา อาระหัง อายุ 27 ปี ชาวจ.มหาสารคาม แฟนสาวของผู้เสียชีวิตเล่าว่า ตนและแฟนหนุ่มอยู่ด้วยกันที่ กทม.โดยตนทำงานหน่วยงานเอกชน แฟนหนุ่มเป็นคนนิสัยดี ไม่เคยมีเรื่องต้องบาดหมางใจกันเลย รักครอบครัว จนวันที่ 5 มิ.ย.แฟนหนุ่มออกไปทำงานก็ไม่คิดว่าจะไม่ได้เจอกันอีกเลย ทุกอย่างเกิดขึ้นไวมากยังทำใจไม่ได้ มีแพลนที่จะแต่งงานกันหลังจากที่แฟนหนุ่มรับปริญญา สอบติดนายร้อย และได้ย้ายกลับภูมิลำเนา จ.พิษณุโลก เพื่อไปอยู่กับครอบครัว เราก็จะแต่งงานกัน แต่วันนั้นไม่มีอีกแล้ว
ข่าว/ภาพ : ชินวัฒน์ สิงหะ ผู้สื่อข่าวจังหวัดพิษณุโลก
