เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน นายจำนงค์ อ่อนพินา กำนัน ต.นาทราย อ.เมือง จ.นครพนม ประสาน นายนิรันดร์ ขันสัมฤทธิ์ ผู้ใหญ่บ้าน บ้านโนนขาม หมู่ 7 ต.นาทราย พร้อมด้วยนายอนุชา วรัญญูสุธน สารวัตรกำนัน ต.นาทราย ร่วมกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบ ช่วยเหลือชาวบ้านเหยื่อเงินกู้ ถูกนายทุนเงินกู้คุกคามข่มขู่ ทราบชื่อผู้เสียหายภายหลัง คือ นายทวีศักดิ์ สิบแก้ว อายุ 27 ปี และภรรยา น.ส.ภาวิณี ภาสุข อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 หมู่ 7 บ้านโนนขาม ต.นาทราย อ.เมือง จ.นครพนม โดยเกิดเหตุภายในบ้านพักชั้นเดียวครึ่งปูนครึ่งไม้
ทั้งนี้ ขณะสองสามีภรรยาออกไปทำงานรับจ้างพอกลับมาพบร่องรอยงัดประตูหน้าบ้าน ตรวจสอบภายใน พบทรัพย์สินสูญหายจากบ้าน มีถังแก๊สมูลค่ากว่า 2,000 บาท เลื่อยโซ่ยนต์ ราคา 3,500 บาท ลูกหมูตัดไม้ประมาณ 1,100 บาท และโต๊ะไม้ราคาประมาณ 500 บาท เชื่อว่ามีคนมาลักขโมยไป จึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ จนกระทั่งทราบภายหลังว่า มีแก๊งเงินกู้ชื่อ “แก๊งบังหนวด” มาบุกงัดบ้าน ลักทรัพย์ออกไปจากบ้าน เนื่องจากไม่พอใจ ที่ค้างชำระเงินกู้ ที่กู้มาจำนวน 10,000 บาท เป็นระยะเวลาชำระคืนตามกำหนด 24 วัน ต้องชำระคืนวันละประมาณ 500 บาท แต่ไม่มีเงินส่งคืน 2 วัน รวม เป็นเงิน 1,000 บาท จึงถูกบุกมาข่มขู่งัดบ้านลักทรัพย์สินออกไป อีกทั้งยังเขียนข้อความที่ฝากบ้านเพื่อประจานด้วน
ล่าสุด ผู้เสียหาย ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ ต่อ ร.ต.ท.สิทธิพล วงศ์นิโลบล รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครพนม เพื่อดำเนินคดีเอาผิดกับแก๊งเงินกู้ดังกล่าว เบื้องต้นทางตำรวจอยู่ระหว่างเรียกตัว ผู้ก่อเหตุมาสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมาย หลังรู้ตัวผู้กระทำผิดแล้ว หากพบหลักฐานรวมถึงพยานหลักฐานชัดเจน จะมีการดำเนินคดีตามกฎหมายทันทีในข้อหาฐานความผิด บุกรุก ทำให้เสียทรัพย์ รวมถึงลักทรัพย์ ส่วนความผิดเกี่ยวกับเงินกู้นอกระบบหากมีการตรวจสอบพบปล่อยกู้เกินกฎหมายกำหนดจะได้ดำเนินคดีตามกฎหมายเพิ่มเติม
ด้าน นายทวีศักดิ์ สิบแก้ว อายุ 27 ปี เปิดเผยว่า ยอมรับว่ากู้เงินนายทุนหนี้นอกระบบ มาเนื่องจากมีความจำเป็นจำนวน 10,000 บาท เมื่อ 4 -5 วันที่ผ่านมา ตนกลงผ่อนชำระวันละประมมาณษ 400 -500 บาท รวมดอกเบี้ยง ต้องชำระทุกวัน ผ่อนจ่ายมาเหลือยอดหนี้ประมาณ 4,000 -5,000 บาท ขอยืนยันว่าไม่ได้ค้าง เพียงออกไปทำงานรับจ้างนอกบ้าน ไม่เจอคนมาเก็บประมาณ 2-3 วัน เลยไม่ได้ชำระหนี้ สุดท้ายถูกบุกงัดบ้าน ลักทรัพย์สินออกไป มูลค่ารวมนับหมื่นบาท ตนรับไม่ได้ กระทำแบบนี้ถือว่าเย้ยกฎหมาย ยอมรับว่าเป็นหนี้ แต่ต้องแยกกันหนี้ส่วนหนี้ ไม่ใช่ว่าจะมางัดบ้านลักทรัพย์สิน ข่มขู่จะขอดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด
