เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธุ์ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2567 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบความตกลงการค้าเสรี ไทย – ศรีลังกา โดยในวันที่ 3-4 กุมภาพันธ์นี้ นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปเป็นสักขีพยานในการลงนามตามคำเชิญของประธานาธิบดีศรีลังกา ที่กรุงโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา โดยความตกลง FTA ไทย – ศรีลังกา เป็นความตกลงการค้าเสรีทวิภาคีฉบับแรกของรัฐบาลชุดนี้ และนับเป็น FTA ฉบับที่ 15 ของประเทศไทย
ทั้งนี้ การลงนาม FTA ไทย – ศรีลังกา จะมีขึ้นในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่ สำนักเลขาธิการประธานาธิบดี ซึ่งเป็นการลงนามระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้า พาณิชย์ และความมั่นคงทางอาหารของศรีลังกา
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์จะจัดงาน Sri Lanka – Thailand Business Networking ซึ่งเป็นกิจกรรมปฐมฤกษ์ kick off การใช้ประโยชน์จาก FTA ไทย – ศรีลังกา โดยในงานจะมีผู้ประกอบการไทยเดินทางไปเข้าร่วมกว่า 20 ราย จาก 7 สินค้าศักยภาพ ได้แก่ อาหาร ผลิตภัณฑ์เกษตร สินค้าสุขภาพ ยานยนต์และชิ้นส่วน วัสดุก่อสร้าง สินค้าครัวเรือน และสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม และ 4 บริการศักยภาพ ได้แก่ โลจิสติกส์ โรงพยาบาล ที่ปรึกษาด้านธุรกิจ และพลังงาน โดยจะมีบริษัทศรีลังกาเข้าร่วมงานด้วยกว่า 70 ราย
อย่างไรก็ตาม ในปี 2566 การค้าระหว่างไทยและศรีลังกามีมูลค่า 415.30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกไปศรีลังกา มูลค่า 291.17 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และนำเข้าจากศรีลังกา มูลค่า 124.13 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับ สินค้าส่งออกสำคัญของไทย อาทิ อัญมณีและเครื่องประดับ น้ำมันสำเร็จรูปยาง ผ้าผืน ยางพารา และเคมีภัณฑ์ สินค้านำเข้าสำคัญจากศรีลังกา อาทิ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ เสื้อผ้าสำเร็จรูป เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช และกาแฟ ชา เครื่องเทศ แม้ศรีลังกาจะเป็นประเทศขนาดเล็ก มีประชากรเพียง 22 ล้านคน แต่มีจุดเด่นด้านที่ตั้ง ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ของการขนส่งทางเรือ เชื่อมต่อภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กับภูมิภาคตะวันออกกลาง แอฟริกา และยุโรป ประกอบกับเป็นประเทศที่มีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ เช่น แร่รัตนชาติ แร่แกรไฟต์ และสัตว์ทะเล แม้ว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมา ศรีลังกาจะประสบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ แต่ก็เริ่มฟื้นตัวและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
