เมื่อวันที่ 26 เมษายน ที่สวนยาง โรงเรียนบ้านยางงาม อ.บางกล่ำ จ.สงขลา นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ที่ปรึกษาคณะกรรมการเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ทพญ.ศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ นายจักรพงษ์ แสงมณี นายทะเบียนพรรคเพื่อไทย เข้าร่วมรับฟังเสียงสะท้อนตัวแทนชาวสวนยางพาราที่สะท้อนปัญหาเรื่องราคายางพาราตกต่ำในช่วงที่ผ่านมา เพื่อเสนอปัญหาไปยังพรรคเพื่อไทยให้ช่วยผลักดันนโยบายในการเลือกตั้ง โดยมีผู้สมัคร ส.ส.สงขลา พรรคเพื่อไทย เข้าร่วมรับฟังด้วย คือ นางชนัญชิดา ล่วนรักษ์ ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา เขต 3 เบอร์ 10 และน.ส.ชานิสรา ภูวิจิตร ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา เขต 9 เบอร์ 10
ทั้งนี้ ตัวแทนชาวสวนยางพารา ต่าวสะท้อนว่า ที่ผ่านเกิดวิกฤตโรคโควิด-19 มา 3 ปี ทำให้ชาวสวนยางพารามีความลำบากมาก ค่าครองชีพก็มีราคาที่สูงมาก และราคายางพารายังตกต่ำลง ทำให้มีความเดือดร้อน จึงขอฝากแคนดิเดตนายกฯรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยให้ช่วยแก้ปัญหาให้พี่น้องชาวสวนยางพาราด้วย
นายเศรษฐา ชี้แจงว่า ภาคใต้ใต้เป็นยุทธศาสตร์สำคัญของประเทศไทยจังหวัดสงขลามีเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ อุตสาหกรรมยางพาราก็ใหญ่ที่สุดในที่จังหวัดสงขลา ส่วนปัญหาค่าครองชีพนั้นรายได้ของประชาชน ในอดีต สมัยที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ เคยทำให้ราคายางพารากิโลกรัมละ 80 บาทมาแล้ว
“รัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะสนับสนุนให้มีการใช้ยางพาราในการแปรรูปมากขึ้นโดยใช้อย่างการทำวัสดุต่างๆ จะทำให้ความต้องการสูงขึ้นและราคาจะสูงขึ้น ยืนยันว่าผู้นำแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยถ้าได้รับความไว้วางใจจากประชาชนทั้งประเทศให้เป็นผู้นำการที่เราจะเดินทางไปค้าขายในทั่วโลกยืนยันพรรคเพื่อไทยมีความมุ่งมั่นตั้งใจจริงและอยากเผยแพร่สินค้ายางกับตลาดในประเทศที่พรรคเพื่อไทยยังไม่เคยไป ส่วนเรื่องโควิด-19 ก็เป็นเรื่องที่เราต้องสู้ต่อไป และผลพวงจากโควิดมีความร้ายแรงที่ทำให้ค่าครองชีพมีสูงขึ้น ทำให้ค่าใช้จ่ายพี่น้องสูงมาก”นายเศรษฐากล่าว
นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า ตนเข้าใจพี่น้องชาวภาคใต้มีความผูกพันกับบางพรรคการเมืองความรักความซื่อสัตย์ ความเป็นห่วงความผูกพันที่มีกับพรรคการเมืองบางพรรค เป็นสิ่งที่ดีและน่าชื่นชม แต่วันนี้โลกเปลี่ยนไปแล้วด้วยสามารถอยู่ได้ด้วยประเทศไทยของเราเอง แต่ก็มีการแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านเราต้องการผู้นำและพรรคการเมืองที่เข้าใจการค้าในระดับโลก พรรคเพื่อไทยจึงอยากเสนอตัวมาขอร้องวิงวอนพี่น้องทุกคนว่าถ้ารักใครชอบใครเป็นสิ่งที่ดีและเคารพ
“แต่วันนี้พรรคเพื่อไทยอยากมาแบ่งปันความรักบางส่วนถ้าท่านสามารถให้ได้และเข้าใจนโยบายของพรรคเพื่อไทยและอยากให้ประเทศเดินหน้าไปได้อยากให้ลูกหลานของท่านมีอนาคตที่ดีกว่าพรรคเพื่อไทยอยากขอเสนอตัวมาช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตความเป็นอยู่พยายามทำให้ดีขึ้นพยายามทำให้ชีวิตดีขึ้นและทำให้รายได้สูงขึ้นด้วยการลดรายจ่ายวันนี้การแข่งขันสูงและการแข่งขันในประเทศก็สูงในวันที่ 14 พ.ค.นี้ เป็นวันที่สามารถเปลี่ยนแปลงพรรคการเมืองได้บางพรรคการเมืองดูแลท่านมา 20-30 ปี แต่พรรคเพื่อไทยเดินทางมาที่นี่ อยากจะขอวิงวอนให้ท่านเข้าคูหากาพรรคเพื่อไทยสองใบ” นายเศรษฐา กล่าว
นายเศรษฐา ระบุว่า ไม่ว่าผลการเลือกตั้งออกมาอย่างไรก็ขอน้อมรับผลการเลือกตั้ง ในอดีตพรรคเพื่อไทยไม่เคยมี ส.ส.ในจังหวัดสงขลา แต่ถ้าไม่มี ส.ส.สงขลา ยืนยันพรรคเพื่อไทยจะกลับมาหาท่านและจะพยายามนำความเปลี่ยนแปลงมาให้ชีวิตของทุกท่านไม่มีน้อยใจ ไม่ย่อท้อจะเดินทางมาอีกจะเข้าสู่ร่วมใจของท่านเพื่อให้ปันใจมาให้เรา และขอฝากผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทยไว้ด้วย
ด้าน นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ กล่าวว่า รู้ว่าในรัฐบาลของไทยราคายางพารากิโลกรัมละ 100 กว่าบาท หลังจากฐบาลยิ่งลักษณ์รัฐประหารพี่น้องจะเห็นว่าในแปดเก้าปีที่ผ่านมาคนที่ลำบากคือชาวสวนยาง พรรคเพื่อไทยไปเจรจากับ 3 ประเทศในขณะนั้นทำให้ราคายางพาราสูงขึ้น โดย ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัญมนตรี ได้เจรจาประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซียและประเทศไทย จะซื้อราคายางพาราในราคานี้ ทำให้พ่อค้ายาทั่วโลกมาแย่งซื้อราคายางพารา
“เราไม่เคยเจรจาเลยกับ ต่างประเทศ เพื่อทำให้ราคายางสูงขึ้น ทำไมประเทศไทย 3-4 ประเทศ ไทยเป็นผู้ส่งออกยางพารา อีกทั้งพรรคร่วมรัฐบาลและไม่เคยพูดถึงราคายางพาราในสภา ผมได้ยื่นกระทู้ถามในสภาฯแล้ว แต่รัฐมนตรีก็ไม่กล้ามาตอบ จึงขอให้ลืมบางพรรคการเมืองบ้าง ในวันที่ 14 พ.ค.นี้ จะให้ใจใครไม่ได้เลย รักใจเดียว พรรคเพื่อไทยอย่างเดียว ถ้าท่านไปเลือกคนอื่นเขาจะเลือกบิ๊กตู่นายกฯ เขาจะเอายางพาราไปขายดาวอังคาร การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นอนาคตของพ่อแม่พี่น้องและลูกหลาน ท่านเลือกผิด ท่านจะเป็นอย่างนี้ ลูกหลานต้องใช้หนี้และลำบากไปอีกหลายปี ดังนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้คืออนาคตของเราและเพื่อชีวิตของพี่น้องทั้งนั้น
ขณะที่ น.ส.ชานิสรา ภูวิจิตร ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา เขต 9 เบอร์ 10 ได้พูดความรู้สึกต่อหน้า ชาวสวนยาง โดยร่ำไห้ และระบายความรู้สึกออกมาว่า ตนอยากให้ชาวบ้านมีความสุข เพราะชาวบ้านกำลังเดือดร้อน ตนมาขอโอกาสจากพี่น้อง เพราะตนมีความตั้งใจในการลงสมัคร ส.ส.เป็นอย่างมาก แต่พรรคเพื่อไทยยังไม่เคยมี ส.ส. ตนจึงต้องสู้ด้วยใจอย่างเดียว วันนี้อยากให้ร่วมกันเปลี่ยนแปลง เพราะคนๆเดียวไม่สามารถทำได้ ถ้าพี่น้องไม่ร่วมร่วมใจกัน เพราะตลอด 8 ปีที่ผ่านมาประชาชนลำบากมากเป็นหนี้กันเยอะ มีตกงานด้วย นโยบายของพรรคเพื่อไทยเคยช่วยครอบครัวของตนให้อยู่ดีกินดี ไม่ว่าจะ เป็นนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค เห็นญาติพี่น้องที่ลำบาก เห็นคนนอนปั๊มหัวใจ แต่บัตร 30 บาทรักษาทุกโรค ช่วยให้คนรอดชีวิต ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยจะยกระดับบัตร 30 บาทรักษาทุกโรคให้ดีขึ้น ขอให้พี่น้องร่วมเป็นกำลังใจเลือกตนเบอร์ 10 และพรรคเพื่อไทย เบอร์ 29 ที่ทำได้จะทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี
