
เมื่อวันที่ 22 มีนาคม นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เปิดเผยว่า จังหวัดจันทบุรีได้รับเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์จากประชาชนว่า มีการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ในเขตพื้นที่อำเภอเมืองจันทบุรี ตนจึงสั่งการให้นายกิตติพงษ์ กิติคุณ นายอำเภอเมืองจันทบุรี บูรณาการร่วมกับกลุ่มงานความมั่นคง ที่ทำการปกครองจังหวัดจันทบุรี กอ.รมน.จ.จบ. ตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี สภ.เมืองจันทบุรี ตำรวจ ตชด.11 และตำรวจ ตม. จ.จันทบุรีในการเข้าตรวจร้านที่ทำการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าดังกล่าว

ทั้งนี้ ผลการปฏิบัติ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบมีการลักลอบเปิดร้านจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าให้กับประชาชนในพื้นที่อำเภอเมืองจันทบุรี 2 ร้าน คือ ร้าน MP มหานิยม และ ร้านสกายเร็ท เจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุมผู้กระทำความผิด 2 ราย และตรวจยึดตัวเครื่องบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยา และอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อเป็นของกลาง โดยแยกเป็น 1) ร้าน MP มหานิยม ของกลางบุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้ง จำนวน 120 ชิ้น น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้ง จำนวน 50 ชิ้น น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้ง จำนวน 121 ขวด เครื่องบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 70 ตัว 2) ร้านสกายเร็ท ของกลางบุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้ง จำนวน 114 ชิ้น น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้งจำนวน 520 ชิ้น น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้ง จำนวน 380 ขวด เครื่องบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 16 ตัว

เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา “ซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยความผิดตามมาตรา 242 และมาตรา 2466 วรรคแรก ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 ประกอบข้อ 4 ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้บารากู่และบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2557” และ “ขายสินค้าบารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า โดยฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ 9/2558 เรื่อง ห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้าบารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า” พร้อมกับนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองจันทบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

“บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อสังคมอย่างมาก ซึ่งจังหวัดจันทบุรีได้ให้ความสำคัญในการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าบุหรี่ไฟฟ้าส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายผู้สูบเป็นอย่างมาก ในระยะยาวจะก่อให้เกิดปัญหาด้านสุขอนามัย ทั้งต่อตัวผู้สูบ ครอบครัว และชุมชน จึงต้องดำเนินการจับกุมอย่างจริงจังและเด็ดขาด ” นายมนต์สิทธิ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกคนในความร่วมมือร่วมใจ และขอเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกคนทำงานด้วยความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและอาชญากรรม ในฐานะผู้ทำหน้าที่ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” และรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อย เป็นหน้าที่ที่ต้องดูแลพี่น้องประชาชน เพื่อให้ทุกคนในสังคมได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข อย่างไรก็ตามขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนทุกท่านช่วยเป็นหูเป็นตา ระแวดระวังบ้านเมืองของเรา หากพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิดทุกรูปแบบ สามารถแจ้งข้อมูล และร้องเรียนร้องทุกข์ได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ สายด่วน 1567 โทรฟรีตลอด 24 ชั่วโมง

