
เมื่อวันที่ 2 ก.ย. ที่โรงแรมลากูน่า แกรนด์ โฮเทล แอนด์ สปา จังหวัดสงขลา นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย เป็นประธานเปิดการประกวดผ้าลายพระราชทาน “ผ้าลายดอกรักราชกัญญา” และงานหัตถกรรม ตามโครงการยกระดับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาผ้าไทยและงานหัตถกรรมชุมชน จุดดำเนินการที่ 3 ภาคใต้ ซึ่งในปีนี้มีผลงานส่งเข้าประกวดมากถึง 1,196 ผลงาน โดยมี ผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นใยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และช่างทอผ้า ผู้ประกอบการ ผู้สมัครเข้าประกวด ร่วมในพิธี

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พระราชทานผ้าลายพระราชทาน “ผ้าลายดอกรักราชกัญญา” เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2566 เนื่องในโอกาสทรงเสด็จไปเยี่ยมราษฎรจังหวัดพัทลุง ซึ่งเป็นลายผ้าที่พระองค์ทรงศึกษาค้นคว้าลวดลายพื้นถิ่นภาคใต้ แล้วนำมาออกแบบผสมผสานกับ “ลายดอกรัก” ที่สื่อถึงความรักและกำลังใจที่พระองค์ทรงสร้างสรรค์ขึ้น เพื่อเป็นของขวัญแก่ช่างทอผ้าทุกกลุ่ม ทุกเทคนิค เยาวชนคนรุ่นใหม่ และประชาชนคนไทยทุกคน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งพระองค์ทรงแสดงถึงน้ำพระทัยที่รักและคิดถึงชาวปักษ์ใต้ เพราะลายผ้าที่พระราชทานนั้น เป็นประเภทผ้าบาติก จำนวน 5 ลาย


คือ ลายปาเต๊ะร่วมใจเทิดไท้เจ้าหญิง ลายท้องทะเลไทย ลายป่าแดนใต้ ลายดอกรักราชกัญญา และลายพระนามาภิไธยสิริกิติ์ ที่แสดงถึงภูมิปัญญางานหัตถศิลป์หัตถกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของคนใต้ ซึ่งเป็นพระประสงค์ที่ทรงอยากกระตุ้นขับเคลื่อนให้คนใต้ช่วยกันสืบสาน รักษา และต่อยอด ผ้าไทยหรือผ้าบาติก รวมถึงผ้ายก ผ้ามัดหมี่ และผ้าไทยลายต่าง ๆ ตลอดจนนำลายเหล่านี้ไปประยุกต์ต่อยอดในผลิตภัณฑ์อื่น ๆ อาทิ ถ้วยชามเซรามิก ซึ่งพระองค์ทรงทุ่มเทพระวรกายให้กับชาวภาคใต้อย่างยิ่งตลอดมา เพื่อไม่ให้ภูมิปัญญาผ้าไทยของภาคใต้หายไปจากประเทศไทย เพื่อทำให้คนภาคใต้สามารถยกระดับผลิตภัณฑ์ นำไปสู่การสร้างงาน สร้างรายได้ สร้างอาชีพ ทำให้ประชาชนทุกคนพึ่งพาตนเอง และมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน


ทั้งนี้ พระองค์ทรงเน้นย้ำเสมอว่า ทุกลมหายใจของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงอยากช่วยเหลือชาวบ้าน ด้วยทรงเห็นว่า งานหัตถศิลป์หัตถกรรมเป็นภูมิปัญญาอยู่ใน DNA คนไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกษตรกรในถิ่นที่ชนบท ซึ่งสามารถช่วยชีวิตเกษตรกรไทยให้มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการทอผ้าอีกทางหนึ่งด้วย จนกระทั่งสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงมีพระปณิธานแน่วแน่ที่จะแบ่งเบาพระราชภาระของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการสืบสาน รักษา และต่อยอด พระราชปณิธานของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยทรงคิดค้นออกแบบผ้าลายพระราชทาน “ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรี” พระราชทานให้กับกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ได้นำไปขับเคลื่อนต่อยอดภูมิปัญญาไทย

อีกทั้งยังให้แนวคิดกับผู้ประกอบการผ้าไทยในการนำลายผ้าไปประยุกต์ จนเกิดเป็นจุดเริ่มต้นของความรุ่งโรจน์ของผ้าไทย ที่พวกเราช่วยกันกระตุ้นให้เกิดการสวมใส่ผ้าไทย ตลอดระยะ 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งการมีลวดลายเพียงอย่างเดียวนั้นไม่พอ ยังเน้นย้ำไปถึงเรื่องการใช้สีที่มีความเหมาะสมกับแฟชั่นและฤดูกาล เพื่อเพิ่มความหลากหลาย เกิดเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่มีความทันสมัย เป็นที่มาของหนังสือเทรนด์ผ้าไทย Thai Textiles Trend Book อีกทั้งการประยุกต์ใช้สี Pantone หรือ Earthtone ที่เป็นองค์ความรู้ในด้านเฉดสีต่าง ๆ ทั้งโทนเดียวกันหรือตัดกัน เพื่อสร้างความโดดเด่นและเอกลักษณ์ให้กับผลิตภัณฑ์ผ้าไทยมากยิ่งขึ้น ตัดเย็บผ้าให้มีรูปทรงที่เป็นความต้องการของตลาด เหมาะสมกับการสวมใส่ในทุกโอกาส และทุกเพศ ทุกวัย จึงเป็นที่มาของโครงการ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก”

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า ขอขอบคุณภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนที่ได้ขับเคลื่อนโครงการนี้อย่างมุ่งมั่นตั้งใจจริง และทำสิ่งที่สำคัญของข้าราชการมหาดไทยด้วยจิตอาสา และขอให้ได้ขยับขยายสิ่งที่ดีเช่นนี้เกิดขึ้นอย่างยิ่งต่อไปในอนาคต ด้วยการทำงาน “แบบรองเท้าสึกก่อนกางเกงขาด” และเป็นผู้นำเชิญชวนให้คนในชุมชนมาร่วมกันสวมใส่ผ้าไทย ใช้ผลิตภัณฑ์ไทย และใช้โอกาสที่ดีในชีวิต และขอชื่นชมพี่น้องชาวภาคใต้ที่ส่งผลงานผ้าและหัตถกรรมเข้าประกวดเป็นจำนวนมากถึง 1,196 ผืน/ชิ้น แบ่งเป็นประเภทผ้า 1,048 ผืน และงานหัตถกรรม 148 ชิ้น

ดร.วันดี กุญชรญาคง จุลเจริญกล่าวว่า นับเป็นพระกรุณาธิคุณที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ในการสืบสาน รักษา และต่อยอด พระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการอนุรักษ์ภูมิปัญญาผ้าไทย เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนคนไทย ซึ่งเป็นที่ประจักษ์แล้วว่า ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา พระองค์ทรงทำให้มีความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ผ้าไทยกลับมามีชีวิตชีวา ฟื้นคืนกลับมาสร้างชีวิตให้กับประชาชนคนไทย ซึ่งในวันนี้เป็นการประกวดของภาคใต้ มีผู้ส่งผลงานเข้าประกวดจำนวนมาก จึงขอเป็นกำลังใจให้กับพี่น้องชาวปักษ์ใต้ ในการเป็นส่วนสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย ผ่านการขับเคลื่อนงานหัถกรรมไทยต่อไป

ด้าน นายธนันท์รัฐ ธนเสฏฐการย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าไทย กล่าวว่า ในปีนี้ 14 จังหวัดภาคใต้มีผ้าที่ผ่านเข้ารอบถัดไป จำนวน 145 ผืน โดยจังหวัดที่ส่งผ้าเข้าประกวดจำนวนชิ้นมากที่สุด คือ จังหวัดพัทลุง และมีผ้าที่ผ่านเข้ารอบมากที่สุด คือ จังหวัดนครศรีธรรมราช

ขณะที่ ดร.ศรินดา จามรมาน ผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าไทย กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา พวกเราได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของผ้าไทยอย่างก้าวกระโดด ได้เห็นผู้ผลิต ผู้ประกอบการ พัฒนาฝีมือและผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ มีความหลากหลายและมีสีสันสอดคล้องกับ Concept ของโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก คือ การสร้างความสุขในองค์รวม ตั้งแต่ความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนตลอดจนถึงการส่งเสริมเศรษฐกิจ จึงขอฝากผู้ประกอบการกลุ่มทอผ้าทุกคนช่วยกันพัฒนาต่อไป
