
เมื่อวันที่ 2 ส.ค. นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธานเปิดงานประเพณีแห่เทียนพรรษาอำเภอประโคนชัย ประจำปี 2566 ซึ่งจังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย อำเภอประโคนชัย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคเอกชน ร่วมจัดขึ้นเพื่อเป็นการอนุรักษ์สืบสานวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของไทย ที่สืบทอดต่อกันมาอย่างยาวนานจนถึงปัจจุบัน ทั้งยังเป็นการกระตุ้นส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดอีกด้วย


บรรยากาศงานประเพณีแห่เทียนพรรษาปีนี้ จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่อลังการ มีขบวนแห่ต้นเทียนพรรษาจากชุมชน และคุ้มวัด ที่แกะสลักตกแต่งอย่างสวยงาม เข้าร่วมประกวดในงานประเพณีแห่เทียน จำนวน 6 คุ้มวัด ได้แก่ วัดโคน, วัดกลางประโคนชัย, วัดจำปา, วัดแจ้ง, วัดโพธิ์ และวัดชัยมงคล ส่วนใหญ่จะแกะสลักต้นเทียนเป็นตัวละครในวรรณคดี และพุทธประวัติ ที่มีลวดลายที่ผสมผสานและสร้างสรรค์อย่างวิจิตรตระการตา โดยฝีมือของช่างเทียนมืออาชีพในท้องถิ่น ซึ่งขบวนเทียนได้แห่ไปตามถนนสายต่างๆ ในเขตเทศบาลตำบลประโคนชัย ให้ประชาชนได้ชื่นชมและร่วมอนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของไทย โดยมีประชาชน นักท่องเที่ยวทั้งในพื้นที่จังหวัดและต่างจังหวัด รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาเที่ยวชมงานแห่เทียนตลอด 2 ฝั่งถนนนับหมื่นคน


ภายในงานนอกจากจะมีขบวนแห่เทียนพรรษาแล้ว ยังมีขบวนฟ้อนรำของแต่ละคุ้มวัด การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน ขบวนรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษา การแสดงศิลปวัฒนธรรม อาหารที่เป็นอัตลักษณ์ของท้องถิ่น รวมถึงขบวนการแต่งกายและการแสดงความคิดสร้างสรรค์อีกด้วย นอกจากนั้นยังได้มีการจัดแสดงจำหน่ายสินค้าท้องถิ่นให้ผู้ที่มาเที่ยวชมงานได้จับจ่ายซื้อหาอีกมากมาย โดยงานจะมีไปจนถึงวันที่ 3 ส.ค.66 คาดจะมีเงินสะพัดจากการจับจ่ายซื้อสินค้า ที่พัก ร้านอาหารหลายล้านบาท


สำหรับ งานประเพณีแห่เทียนพรรษาของชาวประโคนชัยถือเป็นงานรื่นเริง สนุกสนาน สร้างความสามัคคีในชุมชน โดยอาศัยความร่วมมือของคนในชุมชน 6 คุ้มวัดที่ได้ร่วมแกะสลักต้นเทียนและขบวนแห่เทียนพรรษาของตนเอง ในยุคแรกช่างจะแกะลวดลายบนไม้ของ “ต้นกัวล” ในภาษาพื้นบ้าน หรือต้นนุ่น เนื่องจากเป็นไม้เนื้ออ่อนและเบาจึงสามารถทำการสลักเสลาไม้แทนต้นเทียนพรรษาและประดับประดาด้วยกระดาษหลากสีให้สวยงามกลายเป็นต้นเทียนพรรษา แห่แหนไปรอบเมืองบนรถที่ประดับด้วยดอกไม้ ผ้าหลากสี พร้อมกับนางเทียน เนื่องจากในสมัยก่อนไม่มีไฟฟ้าใช้ ของรางวัลที่ได้จะเป็น “น้ำมันก๊าด” ซึ่งแต่ละวัดจะได้รับมาเป็นปี๊บมากน้อยแตกต่างกันตามความสวยงาม ปัจจุบันวิวัฒนาการของการทำเทียนได้กลายมาเป็นเทียนพรรษาที่หล่อหลอมจากขี้ผึ้ง ทุกขั้นตอน และมีการประกวดแข่งขันกันสูงแต่ยังคงรักษาประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงามของชาวอำเภอประโคนชัยไว้
ข่าว/ภาพ : สุรชัย พิรักษา ผู้สื่อข่าวจังหวัดบุรีรัมย์

