เมื่อวันที่ 28 เมษายน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่ อ.หล่มเก่า อ.หล่มสักและ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ช่วยหาเสียงให้นายยุพราช บัวอินทร์ ผู้สมัคร ส.ส.เพชรบูรณ์ เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมเปิดเวทีปราศรัยรวม 4 จุด โดยมี ชาวเพชรบูรณ์พร้อมแฟนคลับมารับฟังการปราศรัยอย่างคับคั่ง
นายอภิสิทธิ์ กล่าวปราศัยตอนหนึ่งว่า หลายคนสงสัยว่าเหตุใดถึงตระเวนพบพี่น้องประชาชนในหลายพื้นที่ ตนไม่ได้มาหาเสียงให้ตัวเอง แต่มาขอบคุณพี่น้องประชาชน ที่เป็นกำลังใจให้พรรคประชาธิปัตย์ ให้กับตนเองและนายยุพราชมาอย่างยาวนาน ซึ่งนักการเมืองอย่างตนเองและอย่างนายยุพราช ไม่มีเงินหรืออิทธิพลใดๆทั้งสิ้น ได้เป็น ส.ส. ได้เป็นนายกรัฐมนตรีหรือได้เป็นรัฐมนตรี ด้วยการสนับสนุนจากพี่น้องประชาชน จึงเป็นเหตุผลที่แม้ว่าตนเองไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้ แต่มาด้วยความที่นึกถึงพี่น้องประชาชน ที่ทำให้เราได้มีโอกาส รวมทั้งสำนึกในบุญคุณและการสนับสนุนที่มีให้ตลอดมา ซึ่งตนเองเต็มใจและชื่นใจที่ประชาชนมากันอย่างล้นหลาม พร้อมให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นไม่ว่าจะเป็นผ้า พวงมาลัยหรือการจับไม้จับมือ
นายอภิสิทธิ ยังกล่าวปราศรัยชื่นชมนายยุพราชว่า รู้จักนายยุพราชมามากกว่า 10 ปี เห็นแววน่าจะเป็นส.ส. เพราะเห็นความตั้งใจที่อยากเป็นตัวแทน เป็นกระบอกเสียงให้กับประชาชนที่นี่ และเมื่อนายยุพราชได้รับเลือกเป็นส.ส.ได้ติดตามดูการทำงานก็เห็นว่า นายยุพราชเป็นคนสม่ำเสมอ ไม่ทิ้งพื้นที่ ไม่ใช่แค่การลงพื้นที่ เพื่อหาคะแนนเสียงเพียงอย่างเดียว แต่ลงพื้นที่เพื่อรับทราบปัญหาของประชาชนเพื่อไปรายงานให้ที่ประชุมพรรคฟัง และไปตั้งคำถามในสภา เพื่อหาทางช่วยแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งนายยุพราชเป็นผู้แทนที่มีคุณภาพอีกคนหนึ่ง ที่ตนเองพร้อมให้การสนับสนุน
อย่างไรก็ตามก่อนจบการปราศรัยปรากฎว่ามีประชาชนเขียนโน๊ตสอบถามนายอภิสิทธิ์ถึง กรณีที่บางพรรคการเมืองมีแนวคิดที่จะตัดหรือลดเงินบำนาญของข้าราชการบำนาญนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนเองไม่ได้อยู่ในสภา แต่มีการอภิปรายในสภาโดยพรรคการเมืองหนึ่งบอกว่า งบประมาณที่ใช้ในการจ่ายเงินบำเหน็จ บำนาญข้าราชการมีจำนวนมาก และต่อไปก็จะมีเพิ่มมากขึ้น โดยเปรียบเทียบกับงบช้างป่วย ซึ่งตนเองไม่ทราบว่าจะตัดหรือไม่ตัด ไม่กล้ายืนยันแต่มีการพูดง่าจะปล่อยเป็นแบบนี้ต่อไปได้หรือ ซึ่งตนเองไม่ขอพูดอะไรมากไปกว่านี้ เพียงแค่ถ่ายทอดสิ่งที่ได้ยินมา แต่ก็บ่งบอกถึงความคิดของคนพูด
“แต่พรรคประชาธิปัตย์เอง เรื่องสิทธิของผู้สูงอายุ บำเหน็จ บำนาญ สวัสดิการรักพยาบาลและคนที่ไม่ได้โชคดีแบบข้าราชการ เราคิดถึงคนทุกกลุ่ม และเราไม่ได้มองว่าการใช้เงินงบประมาณจะคิดเหมือนเป็นเงินลงทุนแบบธุรกิจ คือคิดว่าเอาเงินใส่เพื่อหวังประโยชน์วันข้างหน้า หลายเรื่องใช่ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนถนน ลงทุนบ่อน้ำ หรือการศึกษาเราลงทุนเพื่อสร้างคนสำหรับอนาคต แต่หลายเรื่องคือการที่รัฐบาลต้องตอบแทนคนไทย เหมือนผู้สูงอายุที่เราได้เริ่มต้นทำสิ่งเหล่านี้มา”
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวทิ้งท้ายถึงปัญหายาเสพติดโดยเฉพาะยาบ้า หลังจากมีผู้รับฟังการปราศรัยตะโกนถาม โดยนายอภิสิทธิ์กล่าวเน้นย้ำว่า พรรคประชาธิปัตย์ชัดเจนเรื่องปัญหาของยาเสพติด เพราะว่าปัญหาเรื่องของกัญชา พรรคประชาธิปัตย์ยังกล้าออกมาบอกว่าเรื่องนี้พูดแล้วกระทบกับรัฐบาลด้วยกันก็ยังต้องพูดว่า กัญชาการแพทย์ไม่ว่ากัน แต่ถ้าเป็นกัญชาเสรีทำลายคุณภาพของคน พรรคประชาธิปัตย์ไม่เอา ซึ่งพรรคฯเอาจริงกับปัญหายาเสพติดแน่นอนขอให้ประชาชนไว้วางใจได้
ต่อมา นายอภิสิทธิ์ พร้อมคณะได้เดินพบปะกับพ่อค้าแม่ค้าในตลาดสด 100 ปี พร้อมอ้อนขอให้ช่วยกันเทคะแนนให้นายยุพราชและพรรคประชาธิปัตย์ ก่อนจะเดินทางไปปราศรัยต่อที่โรงเรียนกาญจณาภิเษก อ.หล่มสัก และนายอภิสิทธิ์ยังเดินทางไปพบราษฎรชาวเขาที่ อบต.เข็กน้อย อ.เขาค้ออีกด้วย
ข่าว/ภาพ :นายสุนทร คงวราคม ผู้สื่อข่าวจังหวัดเพชรบูรณ์
