เมื่อวันที่ 7 มี.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดของกระทรวงมหาดไทย โดยมี นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ เข้าร่วม ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
สำหรับ การจัดงานในครั้งนี้เป็นส่วนสำคัญของการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งเป็น 1 ใน 5 นโยบายหลักของกระทรวงมหาดไทยที่นายอนุทินให้ความสำคัญ และกำหนดเป็นนโยบายอย่างชัดเจน เป็นการเน้นย้ำถึงภารกิจร่วมกันของกลไกในทุกระดับ ตั้งแต่ผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิก อส. อาสาสมัคร และ “ยุวสิงห์มหาดไทย” กลุ่มผู้นำของเยาวชนที่จะเข้ามามีบทบาทขับเคลื่อนภารกิจการป้องกันยาเสพติดให้เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่
นายอนุทิน กล่าวว่า ปัญหายาเสพติดคือภัยร้ายที่กำลังบั่นทอนทุกมิติของสังคม ทั้งเศรษฐกิจ ครอบครัว และความมั่นคงของชาติ สะท้อนจากสถิติผู้ต้องขังทั่วประเทศที่ขณะนี้ร้อยละ 71.79 เป็นผู้ต้องโทษในคดียาเสพติด จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องบูรณาการกลไกของกระทรวงมหาดไทยในทุกระดับอย่างเข้มข้น ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ให้ความสำคัญกับ 4 มาตรการหลัก ได้แก่ การป้องกัน การป้องปราม การปราบปราม และการบำบัดฟื้นฟู
ทั้งนี้ การป้องกัน เราเน้นส่งเสริมการให้ความรู้ สร้างภูมิคุ้มกัน และได้จัดกิจกรรมกว่า 55,684 ครั้ง มีผู้เข้าร่วมกว่า 5.3 ล้านคน การป้องปราม ดำเนินการผ่านการจัดระเบียบสังคม โดยมีการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด สถานบริการ และพื้นที่ที่มีความเสี่ยงเรื่องยาเสพติดกว่า 1.2 ล้านครั้ง การปราบปราม ปัจจุบันรัฐบาลกำลังเดินหน้าปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” โดยผนึกกำลัง 51 อำเภอชายแดนสกัดกั้นยาสพติดตั้งแต่ต้นทาง กวาดล้างแหล่งค้ายาเสพติดทั่วประเทศ จับกุมผู้ค้ายาเสพติดกว่า 51,520 ราย ส่วนการบำบัดฟื้นฟู ศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคม 6,069 แห่ง จัดกิจกรรมฝึกอาชีพและทักษะชีวิตไปแล้ว 18,198 ครั้ง ช่วยเหลือผู้ผ่านการบำบัดกว่า 57,500 คน ลดโอกาสการกลับไปเสพซ้ำ
“สิ่งที่สำคัญคือเรามี “ยุวสิงห์มหาดไทย” หรือน้องๆ เยาวชนที่จะเป็นพลังสำคัญในการสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคม ด้วยการเป็นแบบอย่างที่ดี เป็นผู้ที่เสียสละ เป็นหูเป็นตา ร่วมจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ และให้กำลังใจผู้ที่กำลังเลิกยาเสพติด ซึ่งจะช่วยทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดเกิดความละอายใจ อันเป็นพลังสำคัญในการร่วมกันทำเพื่อแผ่นดิน” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวว่า ทั้งหมดนี้จะสำเร็จได้ ต้องอาศัยการทำงานร่วมกันของทุกฝ่าย โดยใช้ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ศอ.ปส.จ.) เป็นศูนย์กลาง มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน และนายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมถึงผู้บริหารในทุกระดับเป็นผู้ประสานทรัพยากรจากทุกภาคส่วน
“เพื่อให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นไปอย่างเข้มข้น กระทรวงมหาดไทยได้กำหนดให้การดำเนินงานด้านยาเสพติดเป็นหนึ่งใน KPI ของผู้ว่าราชการจังหวัด ในการขับเคลื่อน 4 แนวทางสำคัญ ได้แก่ การป้องกันเชิงรุก การปราบปรามจริงจังตัดวงจรเครือข่ายผู้ค้า การบำบัดฟื้นฟูอย่างมีประสิทธิภาพ และ การเปลี่ยนกลุ่มเสี่ยงให้เป็นพลัง ด้วยยุวสิงห์มหาดไทยร่วมใจต้านยาเสพติด” รมว.มหาดไทย
ด้านนายอรรษิษฐ์ กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยเล็งเห็นถึงบทบาทสำคัญของคนรุ่นใหม่ในการเสริมสร้างความมั่นคงของสังคม โดยเฉพาะกลุ่ม “ยุวสิงห์มหาดไทย” ซึ่งมีส่วนร่วมในการสนับสนุนภารกิจของกระทรวงร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน กลุ่มยุวสิงห์มหาดไทยจะทำหน้าที่เป็นต้นแบบในการปลูกฝังค่านิยมที่ถูกต้อง เสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจ และสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนห่างไกลจากยาเสพติด เพื่อมุ่งสู่สังคมสีขาวที่ปลอดภัย ปราศจากยาเสพติดอย่างยั่งยืน
สำหรับ ครั้งนี้มีการประชุมปฏิบัติการ (workshop) เพื่อรวบรวมข้อเสนอแนะแนวทางแก้ไปปัญหายาเสพติดที่ยั่งยืนจากทุกภาคส่วน การมอบนโยบายแก่ผู้เกี่ยวข้องแล้ว ยังมีพิธีมอบธงสัญลักษณ์หมู่บ้านสีขาว ให้แก่ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านระดับจังหวัด และในช่วงท้าย พิธีมอบธงและป้ายสัญลักษณ์การร่วมมือแก้ไขปัญหายาเสพติด ให้แก่ยุวสิงห์มหาดไทย รวมใจต้านยาเสพติดของแต่ละจังหวัดด้วย
