
เมื่อวันที่ 23 มกราคม นายทองไมค์ ดาแพง อายุ 54 ปี ตำแหน่งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.คำเตย อ.เมือง จ.นครพนม พร้อม พระมหาสมศักดิ์ นาถสกฺกโก (ปะทา) อายุ 36 ปี เจ้าอาวาสวัดปราโมธอันทวัน ซึ่งเป็นวัดประจำหมู่บ้าน นำภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐานสำคัญ เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.ท.(หญิง)ปาริฉัตต์ ทาบทอง รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครพนม เพื่อดำเนินคดีกับนายหนูพันธ์ หรือ เวียง อายุ 65 ปี เป็นชาวบ้านหมู่ 5 ต.คำเตย ก่อเหตุทำลายพระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ในศาลาการเปรียญ ได้รับความเสียจำนวน 4 องค์
ทั้งนี้ ยังใช้แจกันไม้พยายามทำร้ายพระสงฆ์ที่จำพรรษาอยู่ 3 รูป จนต้องวิ่งแตกหนีกระเจิงไปคนละทิศละทาง เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.16 น. วันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา

พระมหาสมศักดิ์ เปิดเผยเหตุระทึกว่า ขณะที่นั่งสนทนาธรรมกับพระลูกวัดอีก 2 รูป คือพระเขตร์ อัคคะธัมโม อายุ 48 ปี และพระวิชัย เขมะวิโร อายุ 72 ปี ด้านหน้ากุฏิปรากฏว่ามีนายหนูพันธ์ ซึ่งมีบ้านอยู่ทางเข้าวัด เดินเข้ามาที่ศาลาการเปรียญ คว้าแจกันไม้หน้าพระประธานฟาดรูปหล่อพระโมคคัลลานะ พระอัครสาวกเบื้องซ้าย และ พระสารีบุตร พระอัครสาวกเบื้องขวาของพระพระพุทธเจ้าจนเศียรและข้อพระบาทหัก ส่วนพระประธาน 2 องค์ก็ถูกทำลายเสียหายด้วย

จากนั้นนายเวียงก็กว้าแจกันไม้ ตรงดิ่งมาหาพระสงฆ์ทั้ง 3 รูปที่พยายามเข้ามาห้ามปราม ปากก็ตะโกนว่า ตนเป็นยักษ์ เป็นท้าวเวสสุวรรณ เห็นสีเหลืองไม่ได้ ต้องทำลายให้หมด พระทั้ง 3 รูปวิ่งหนีกระเจิงไปคนละททาง โดยพระเขตร์กับหลวงตาวิชัย เห็นจวนตัวจึงวิ่งปีนกำแพงวัด กระโดดหนีตายออกไปหาชาวบ้านให้มาช่วยเหลือ ขณะพระมหาสมศักดิ์เจ้าอาวาสวิ่งออกไปทางประตูเข้าวัด พร้อมกดโทรศัพท์แจ้งผู้ใหญ่บ้านรีบมาระงับเหตุ กระทั่งมีตำรวจประจำตำบลมาสมทบ ซึ่งต่อมานายเวียงมีอาการสงบลง และยอมรับว่าเกิดคลุ้มคลั่ง เพราะมีคนมากระซิบข้างหูว่า ตนเองเป็นท้าวเวสสุวรรณต้องทำลายพระให้สิ้นซาก จึงยอมทำตามคำสั่ง ต่อมาทางผู้นำหมู่บ้านนำตัวนายเวียงไปตรวจร่างกายที่ รพ.นครพนม เบื้องต้นพลฉี่สีม่วง แต่ยังไม่มีการแจ้งความดำเนินคดี

พระมหาสมศักดิ์เจ้าอาวาส เปิดเผยว่า องค์พระพุทธรูปที่เสียหาย คงคิดเป็นมูลค่าไม่ได้ เพราะมีคุณค่าทางจิตใจของสาธุชน แต่เมื่อถูกทำลายแล้วก็มีความเห็นจะทำบุญ เพื่อสมทบทุนหล่อพระพุทธรูปองค์ใหม่ขึ้นมาทดแทน และอยากให้เจ้าหน้าที่นำตัวนายเวียงเข้ารักษาอาการ เพราะทุกวันนี้นายเวียงยังอยู่ในชุมชน จึงเป็นที่หวาดระแวงทั้งพระและญาติโยม ไม่รู้จะคลุ้มคลั่งอีกเมื่อไหร่