
เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ต.อ. ภาคภูมิ เดชะเรืองศิลป์ ผกก.สภ.เมืองนครพนม ประสานชุดสืบสวน และกองพิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่ตรวจสอบเก็บหลักฐานเพิ่มเติม กรณีคนร้ายฆ่าปาดคอนายอดุลย์ โมคลา หรือ ลุงตา อายุ 59 ปี ชาวบ้านเหล่าภูมี ต.หนองหญาติ อ.เมืองนครพนม เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 1 พฤศจิกายน บริเวณสวนท้ายหมู่บ้านคำธาตุ ต.หนองญาติ อ. เมืองนครพนม หลังญาติไปพบลุงตานอนเสียชีวิตปริศนา ตรวจสอบพบมีบาดแผลถูกทำร้ายร่างกาย และถูกเชือดด้วยของมีคมบริเวณลำคอนอนเสียชีวิต
ล่าสุด พ.ต.อ. ภาคภูมิ ได้ระดมชุดสืบสวน รวบรวมหลักฐานติดตามจับกลุ่มคนร้าย ขณะหลบหนีกบดานอยู่ในป่าละแวกเดียวกัน จับกุมนายโชคชัย อายุ 28 ปี ชาวบ้านในละแวกเดียวกันได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไปสอบสวนดำเนินคดีแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยผู้ต้องหารับสารภาพว่า ไม่พอใจส่วนตัวกันมาก่อน เนื่องจากถูกผู้ตายดุด่า ล่าสุดตนไปขุดจิ้งหรีดในพื้นที่สวนเลี้ยงวัวของผู้ตาย จึงเกิดไม่พอใจกันและมีการแย่งเสียมขุดจิ้งหรีด เนื่องจากผู้ตายจะนำไปเป็นหลักฐานแจ้งตำรวจมาจับตน จึงเกรงว่าผู้ตายจะทำร้ายจึงตัดสินใจล็อคตัวใช้อาวุธมีดแทงและปาดคอเสียชีวิต ก่อนหลบหนี ยอมรับทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ไม่ได้ตั้งใจ แต่เกรงว่าหากไม่ทำร้ายร่างกายผู้ตายตนเองจะถูกทำร้าย ขณะที่เจ้าหน้าที่เชื่อว่า อาการโมโหร้ายของผู้ต้องหาเนื่องจากมีประวัติติดยาเสพติดมาก่อน

นางคำปุ่น แสนศิลา อายุ 65 ปี ภรรยาของลุงตา บอกว่า ปกติ ผู้ตายมีอาชีพเลี้ยงวัว ในสวนที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่เช่า เลี้ยงวัวทั้งหมด 7 ตัว เป็นวัวของลูกสาวมาจ้างให้เลี้ยง ทุกวันลุงตาหลังกินข้าวเช้าจะต้อนฝูงวัวไปเลี้ยงในป่าสวนยูคาลิปตัส ที่ลูกสาวได้เช่าพื้นที่จากเจ้าของสวนเพื่อเลี้ยงวัว ตอนเที่ยงจะเดินกลับมากินข้าวบ้าน วันเกิดเหตุตนออกไปรับจ้างเกี่ยวข้าว กลับมาถึงบ้านไม่เห็นสามีต้อนวัวกลับคอก จึงได้ออกตามหากระทั่งตะวันตกดิน ไม่เห็นแม้เงาสามี จึงไปหานายวิศิษฐ์ เหมเมือง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 13 บ้านเหล่าภูมี ต.หนองญาติ ระดมชาวบ้านออกตามหา กระทั่งมีคนมาบอกว่าพบศพ ลุงตาเสียชีวิตอยู่ในป่ายูคาฯ จึงปักใจเชื่อว่าฆาตกรรายนี้ต้องเป็นนายโชคชัยแน่นอน เพราะทั้งคู่มีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน
นางคำปุ่น เล่าว่า นายโชคชัย ไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง จะเดินผ่านหน้าบ้านตนประจำ เคยเข้าไปขโมยของในบ้าน ทำให้ลุงตา สามีโกรธเคือง จึงมีปากเสียงทะเลาะกัน และเมื่อไม่นาน นายโชคชัย แอบมาจุดไฟเผากองฟางที่สามีเตรียมไว้ให้วัวกิน ยิ่งเพิ่มความแค้นเคืองมากยิ่งขึ้น เวลาทั้งคู่เจอหน้ากัน จะต้องปะทะคารมกันอยู่เสมอ
ข่าว/ภาพ : พัฒนพงษ์ ศรีเพียชัย ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครพนม
