
เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งมีเหตุชายป่วยจิตเวชคลุ้มคลั่งจุดไฟเผาบ้านตัวเอง เหตุเกิดที่บ้านโคกไม้แดง ต.บ้านสิงห์ อ.นางรอง หลังได้รับแจ้ง พ.ต.ท.สุพีร์ ชัยสูงเนิน รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.นางรอง , พ.ต.ท.จิรโรจน์ มงคลธรสุพัฒน์ สว.(สอบสวน) สภ.นางรอง , นายชาญวิทย์ วงค์สัมพันธ์ชัย ปลัดอำเภอนางรอง พร้อมด้วยสายตรวจตู้ยามบ้านสิงห์ ผอ.รพ.สต.บ้านสิงห์ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และหน่วยกู้ภัยฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ

เมื่อไปถึงพบเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ภายในบ้านพบข้าวของเครื่องใช้ ที่นอน เครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้า และเครื่องครัว ถูกไฟไหม้เสียหายเกือบทั้งหมดเคราะห์ดีที่ชาวบ้านช่วยกันดับทัน จึงไม่ลุกลามไหม้บ้านทั้งหลัง ศาลพระภูมิที่ตั้งอยู่ข้างบ้านก็ถูกทุบทิ้ง ส่วนญาติพี่น้องและชาวบ้านที่อาศัยอยู่ละแวกใกล้เคียง ต่างตกใจและหวาดผวา เพราะผู้ก่อเหตุเคยถือมีดไปมาและโวยวายอาละวาด ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เพราะกลัว

สำหรับ ผู้ก่อเหตุ คือ นายวิษณุเทพ อายุ 55 ปี เจ้าของบ้าน ไม่ได้หนีไปไหนยังนั่งดูผลงานตัวเองอยู่ข้างบ้าน และนั่งพูดคนเดียวตลอดเวลาแต่พูดจาไม่รู้เรื่อง เจ้าหน้าที่จึงเข้าควบคุมตัวขึ้นรถกู้ภัยเพื่อนำส่ง รพ.ให้แพทย์ตรวจรักษา เมื่อสอบถามนายวิษณุเทพ ว่า ทำไมถึงเผาบ้านตัวเองเขาก็บอกว่าไม่อยากให้ใครอยู่ ส่วนตัวเองอยู่ที่ไหนก็ได้บนแผ่นดินนี้ ยกเว้นในน้ำอยู่ไม่ได้ พอถามว่าเผาบ้านทิ้งแล้วจะไปอยู่ที่ไหน นายวิษณุเทพบอกว่า จะกลับไปอยู่ที่เดิม คือ วนัมรุง หรือ พนมรุ้ง เพราะตัวเองเป็นพระเจ้าชัยวรมันที่ 2 จากนั้นก็พูดจาวกไปวนมาฟังไม่รู้เรื่อง

สอบถาม นางพานิชตา อายุ 45 ปี ภรรยาผู้ก่อเหตุ เล่าว่า สามีป่วยจิตเวชมาหลายปีแล้ว ไปรักษาและรับยามากินอย่างต่อเนื่อง แต่ที่อาการกำเริบจนเผาบ้าน น่าจะเกิดจากที่สามีแอบเสพยาเสพติด และกินเหล้า ทำให้หลอนคลุ้มคลั่งแล้วก่อเหตุเผาบ้าน ทุบศาลพระภูมิทิ้ง ก็ตกใจทำอะไรไม่ถูก ก่อนหน้านี้สามีก็เคยไปทุบรถตำรวจ และเคยจุดไฟเผาบ้านแล้วครั้งหนึ่งแต่เสียหายไม่มาก ไม่คิดว่าจะก่อเหตุซ้ำ จึงอยากให้สามีรักษาให้หายจะได้ใช้ชีวิตเป็นปกติ

ด้านนายศุภกิจ วิเศษกูล กำนันตำบลบ้านสิงห์ เปิดเผยว่า จากประวัติผู้ก่อเหตุเป็นผู้ป่วยจิตเวช ก็มีการรักษารับยามากิน เท่าที่สอบถามภรรยา ทราบว่าสามีน่าจะแอบเสพยาและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้เกิดอาการหลอนคลุ้มคลั่ง ก่อเหตุเผาบ้านตัวเอง เป็นช่วงที่ภรรยาพาลูกไป รพ.จึงก่อเหตุ ญาติและชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์จึงช่วยกันดับ จากเหตุการณ์ดังกล่าวก็จะรายงานผู้บังคับบัญชา เพื่อร่วมกันหาแนวทางแก้ไขพาไปบำบัดรักษา เพื่อไม่ให้ก่อเหตุแบบนี้อีก
ข่าว/ภาพ : สุรชัย พิรักษา ผู้สื่อข่าวจังหวัดบุรีรัมย์
