เมื่อวันที่ 9 มกราคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ให้สัมภาษณ์ถึงการลาออกจากตำแหน่ง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ว่า ไม่ได้เกี่ยวกับข้อตกลงก่อนเลือกตั้ง ที่จะให้ลาออกหลังได้เป็นรัฐมนตรีตามที่เป็นข่าว เพียงแต่ตนเห็นว่าในช่วงที่ผ่านมา งานที่ต้องรับผิดชอบกระทรวงคมนาคม มีโครงการต่างๆ ที่ต้องการผลักดัน ทำให้การต้องมาประชุมสภาผู้แทนราษฎร เป็นอุปสรรคในการทำงานส่วนหนึ่ง จึงคิดว่าเป็นการดีที่ตนจะลาออก เพื่อจะได้ทุ่มเททำงานในกระทรวงคมนาคมได้อย่างเต็มที่
เมื่อถามว่า การลาออกในครั้งนี้จะเป็นหลักประกันให้อยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีจนครบวาระ4 ปีหรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า หลักการที่สำคัญคือ หากเราทำงาน ทำประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชน ถ้าเราทำงานได้ดี ก็ไม่ต้องเป็นห่วง หากทำงานไม่ดีก็อาจจะถูกปรับออกจากตำแหน่งได้ เรื่องนี้อยู่ที่ผลงานของรัฐมนตรีแต่ละคน
นายสุริยะ ยังกล่าวถึง ผลประกอบการรถไฟฟ้าสายสีแดงและสีม่วง ว่ ามีคนมาใช้บริการรถไฟทั้งสองสายเพิ่มมากขึ้น แต่ว่ามีการลดราคาค่าโดยสาร จึงทำให้ขาดทุนเพิ่มขึ้น แต่ในระยะยาวไม่เกิน 1 ปี จำนวนผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้รถไฟฟ้าทั้งสองสายกลับมามีกำไร
นายสุริยะ กล่าวอีกว่า สิ่งที่ตนอยากจะผลักดันในการทำงานมีหลายอย่าง ไม่ใช่แค่เรื่องรถไฟเรื่องเดียว กระทรวงคมนาคมจะพยามผลักดันเรื่องโครงการแลนด์บริดจ์ เป็นโครงการที่สำคัญรวมไปถึงรถไฟรางคู่ ที่ผ่านมาประเทศไทยมี โลจิสติกส์ ที่เมื่อเทียบกับประเทศที่เจริญแล้ว มี GDP อยู่ที่ 10% ในขณะที่ประเทศเจริญแล้ว 9% สาเหตุเป็นเพราะว่าเราใช้แต่ถนน ไม่เอาระบบรางมาใช้ จากนี้ไปจึงจะพยามผลักดันเรื่อง รถไฟรางคู่ และรถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน ที่จะต่อไปถึง จ.หนองคาย นั่นคือสิ่งที่ตนต้องการผลักดัน ให้เห็นการเปลี่ยนแปลงในการลด ต้นทุนโลจิสติกส์ สามารถส่งสินค้าเกษตรได้ในราคาถูก
