
เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. น.ส.เอ อายุ 28 ปี ชาวบ้านโคกเจริญ ตำบลโกรกแก้ว อำเภอโนนสุวรรณ จังหวัดบุรีรัมย์ ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.โนนสุวรรณ หลังได้มีคนร้ายปาก้อนกินทะลุกระจกหน้าต่างที่บริเวณห้องนอนช่วงประมาณเที่ยงคืนวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะนอนหลับอยู่ในบ้าน ทำให้เศษกระจกกระเด็นใส่เต็มตัวแต่โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ พอมาเปิดดูกล้องวงจรปิดก็ไม่เห็นภาพใครคาดว่าคนที่ก่อเหตุน่าจะอยู่นอกรัศมีกล้อง แต่ได้ยินเสียงตอนกระจกแตกและพบก้อนหินตกอยู่ในบ้าน

น.ส.เอ เล่าว่า ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเดือนมี.ค. และเม.ย.ที่ผ่านมา บ้านก็ถูกงัดและถูกรื้อค้นพบว่ากางเกงในและเสื้อชั้นในถูกขโมยหายไป คาดว่าน่าจะขโมยไปดมเพื่อสำเร็จความใคร่ แต่ตอนนั้นยังไม่ติดกล้องวงจรปิดจึงไม่มีหลักฐาน หลังจากนั้นจึงตัดสินใจซื้อกล้องวงจรปิดมาติดไว้ เพราะต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยความหวาดระแวง และทราบมาว่าก่อนหน้านี้ก็มีข้าราชการครูและชาวบ้านที่ถูกขโมยชุดชั้นเหมือนกัน จึงคิดว่าคนก่อเหตุน่าจะเป็นคนๆ เดียวกัน ซึ่งคนในหมู่บ้านและผู้นำชุมชนก็รู้ว่าเป็นใคร เคยมีคนไปเจอชุดชั้นที่กระท่อมแต่ถูกเผาทำลายจึงไม่สามารถทำอะไรได้ ไม่มีหลักฐานชัดเจนครอบครัวของชายคนดังกล่าวก็อ้างว่าลูกตัวเองป่วยจิตเวชทำให้ชาวบ้านต้องใช้ชีวิตอยู่กันแบบหวาดระแวง ไม่รู้ว่าชายคนดังกล่าวจะแค่ลักขโมยชุดชั้นใน หรืออาจจะก่อเหตุที่เป็นอันตรายต่อชีวิตคนอื่นที่รุนแรงกว่านี้หรือไม่

น.ส.เอ กล่าวทั้งน้ำตาว่า ก่อนหน้าชุดชั้นในและผ้าถุงหาย ล่าสุดช่วงเที่ยงคืนวันที่ 11 มิ.ย.โดนก้อนหินปากระจกแตก คนในบ้านวิ่งออกไปดูเห็นชายคนหนึ่งอายุประมาณ 35 ปี เป็นคนในหมู่บ้านพยายามเดินหนี ซึ่งเป็นคนๆ เดียวกับที่ชาวบ้านก็รู้ว่าชอบลักขโมยชุดชั้นในแต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะวงจรปิดจับภาพไม่ได้ ตนกลัวมากเพราะเวลาที่สามีออกไปทำงานจะต้องอยู่บ้านกับลูกสาว 2 คน กลัวว่าจะไม่ปลอดภัยเพราะเราไม่รู้ว่าเขาจะมาทำอันตรายหรือป่าว ทำให้ต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยความหวาดระแวง หากยังไม่มีหลักฐานเอาผิดเขาก็อยากให้ตำรวจมาช่วยตรวจตราด้วยเพื่อสร้างความอุ่นใจและความปลอดภัย

ด้านนายสมชาย วิเศษชาติ ผู้ใหญ่บ้านโคกเจริญ กล่าวว่า ทราบว่าคนที่ชอบลักขโมยชุดชั้นในชาวบ้านเป็นใคร แต่ที่ผ่านมาก็ไม่สามารถที่จะเอาผิดได้เนื่องจากยังไม่มีหลักฐานทั้งที่คนในหมู่บ้านก็รู้ พอไปพูดคุยกับพ่อแม่ชายคนดังกล่าว เขาก็บอกว่าจะดูแลเองเพราะลูกเขามีประวัติการรักษาอาการป่วยจิตเวช ก่อนหน้านี้เคยมีเหตุการณ์เผากองฟางในโรงเรียนและขโมยชุดชั้นในของครูซึ่งอยู่ในโรงเรียน จึงคาดว่าน่าจะเป็นคนเดียวกัน คงต้องปล่อยให้เป็นหน้านี้ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบ้าน น.ส.เอเพื่อเก็บหลักฐานเพิ่มเติม พร้อมทั้งจะได้สอบปากคำพยานแวดล้อม เพื่อรวบรวมหลักฐานดำเนินการตามกระบวนการขั้นตอนต่อไป โดยตำรวจรับปากจะออกมาตรวจตราเป็นระยะเพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับประชาชน
ข่าว/ภาพสุรชัย พิรักษา / บุรีรัมย์