สลด!หนุ่มใหญ่นั่งก๊งเหล้าก่อนลงหาปลาถูกตาข่ายพันแขนขาจมน้ำดับ

เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ช พ.ต.ต.ธงรัฐ์  เขียวสนาม  สารวัตร (สอบสวน) สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์  ได้รับแจ้งมีเหตุคนจมน้ำเสียชีวิตในสระ  ภายในชุมชนหนองโพรง  ต.นางรอง  อ.นางรอง  จึงประสานแพทย์เวรรพ.นางรอง พร้อมประสานหน่วยกู้ภัยตำรวจทางหลวงบุรีรัมย์ และกู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์  ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบเป็นสระน้ำธรรมชาติ รูปตัว L อยู่ในชุมชนหนองโพรง เขตเทศบาลเมืองนางรอง  มีชาวบ้านยืนมุงดูรอบสระ  จากนั้นหน่วยกู้ภัยฯ จึงได้ลงงมค้นหาผู้ที่จมน้ำ ทราบชื่อภายหลัง คือนายล้วน  นิ่มสุวรรณ์  อายุ 60 ปี  ชาวอำเภอนางรอง โดยกู้ภัยใช้เวลาเพียงประมาณ 5 นาที ก็พบร่างนายล้วนจมอยู่ก้นสระลึกประมาณ 2 เมตร  จึงได้นำขึ้นจากน้ำในสภาพสวมกางเกงขา 3 ส่วนสีดำไม่สวมเสื้อ  บริเวณขาและแขนมีตาข่ายสำหรับหาปลาพันติดอยู่ คาดว่าผู้ตายน่าจะลงไปวางตาข่ายดักปลาในสระแล้วถูกตาข่ายพันเกิดจมน้ำเสียชีวิต ตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบร่องรอยบาดแผลจากการถูกทำร้ายคาดว่า จมน้ำเสียชีวิตเอง ขณะที่พบรองเท้า  เสื้อผ้า และแก้วเหล้าอยู่ริมสระ

จากสอบถามเพื่อนผู้ตายที่ดื่มเหล้าด้วยกัน เล่าด้วยอาการมึนเมาว่า  ตนกับผู้ตายได้นั่งดื่มเหล้าอยู่ที่อื่นก่อนจะพากันออกมาหาปลาที่สระ  ขณะผู้ตายลงไปวางตาข่ายในสระตนก็เทเหล้าใส่แก้วทิ้งไว้ให้ แล้วตนก็เดินเข้าไปในบ้าน พอเดินกลับมาก็ไม่เจอนายล้วน  เจอเพียงรองเท้า เสื้อผ้าและแก้วเหล้าที่เททิ้งไว้ให้อยู่ริมสระ จึงคิดว่านายล้วนคงจมน้ำจึงไปบอกชาวบ้านให้ช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่

ด้านน.ส.พิมพร นิ่มสุวรรณ์  อายุ 57 ปี น้องสาวผู้ตาย  บอกว่า ปกติพี่ชายมีโรคประจำตัว คือ เส้นเลือดในสมองตีบ และแขนขาอ่อนแรง หมอก็ห้ามดื่มเหล้าแต่พี่ชายดื้อแอบดื่มเหล้าประจำ ก่อนที่พี่ชายจะมาหาปลาที่สระ ก็นั่งดื่มเหล้าที่อื่นมาก่อน แล้วค่อยพากันมาหาปลาที่สระ คิดว่าคงจะด้วยร่างกายที่ไม่แข็งแรงเพราะมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว มาดื่มเหล้าแล้วลงหาปลา  แล้วอาจจะโดนตาข่ายพันแขนขาแล้วไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้  จนทำให้จมน้ำเสียชีวิต

ขณะที่ นายประสงค์  วัฒนสารสมบัติ  ประธานชุมชนหนองโพรง  กล่าวว่า  เมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา ก็เคยมีคนจมน้ำเสียชีวิตในสระลูกนี้  จึงได้ติดป้ายประชาสัมพันธ์ห้ามลงเล่นน้ำและจับสัตว์น้ำในสระแห่งนี้เพื่อความปลอดภัย  แต่ก็ยังมีคนแอบมาลงหาปลาอยู่เรื่อยจนเกิดเหตุสลดขึ้นอีก

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบสภาพศพ  ไม่พบร่องรอยบาดแผลจากการถูกทำร้ายร่างกาย  และญาติไม่ได้ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต   จึงมอบร่างผู้เสียชีวิตให้ญาตินำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาตามประเพณี

ข่าว/ภาพ : สุรชัย พิรักษา ผู้สื่อข่าวจังหวัดบุรีรัมย์ 

Message us