เมื่อวันที่ 4 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุคนร้ายลอบดักระเบิดรถยนต์เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด EOD หน่วยเฉพาะกิจอโณทัย เป็นเหตุให้รถยนต์กระเด็นเสียหายทั้งคันมีผู้เสียชีวิต 2 นายและได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 1 นาย ถูกนำส่งโรงพยาบาลศรีสาคร จากการตรวจสอบพบว่า เป็นหนึ่งในขบวนรถยนต์คณะรองแม่ทัพภาคที่ 4 กลับจากตรวจสอบจุดเกิดเหตุคนร้ายลอบขว้างปาระเบิดไปบอมย์และยิงใส่ฐานปฏิบัติการ แต่โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจากเหตุดังกล่าว
ทั้งนี้ เหตุเกิดเมื่อเวลา 15.10 น. วันที่ 3 มีนาคม ร.ต.ท.ศุภฤกษ์ จำเริญนุสิต รองสารวัตรสอบสวน สภ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส รับแจ้งจากศูนย์วิทยุฐานปฏิบัติการกองร้อย ทพ.ที่ 4906 มีเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดรถยนต์ของคณะของพล.ต.ไพศาล หนูสังข์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 และ รอง ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า บริเวณถนนบ้านไอร์กาแซ ม.6 ต.ศรีสาคร ซึ่งห่างจากฐานประมาณ 800 เมตร จึงจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารจำนวนหนึ่ง รุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุพบหลุมระเบิดบริเวณกลางถนน ลึก 1 เมตร กว้าง 2 เมตร และมีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดกระจ่ายทั่วผิวถนน ห่างจากหลุมระเบิดไป ประมาณ 30 เมตร พบรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนเป็นรถของหน่วยชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด EOD อโณทัย ที่ได้มีการดัดแปลงติดตั้งอุปกรณ์ตัดสัญญาณอยู่ในสภาพหงายท้องล้อชี้ฟ้า ตัวถังถูกอนุภาพของระเบิดได้รับความเสียหายเกือบทั้งคัน
ตรวจสอบถายในรถยนต์มีศพผู้เสียชีวิตติดกับซากรถ จำนวน 2 นาย ทราบชื่อคือ1.พ.ต.ลิขิต วิทยประภารัตน์ หัวหน้าชุด สังกัดพัน สพ.กระสุน 21 บชร.1 นอนเสียชีวิตอยู่เบาะหน้าข้างพลขับ 2.จ.ส.อ.อิสระ เลิกนอก พลขับ สังกัดพัน สบร.21 บชร.1 ส่วน ส.อ.ศักย์ศรณ์ สายน้ำ สังกัด มทบ.43 บาดเจ็บสาหัส เพื่อนทหารได้นำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลศรีสาครไปก่อนหน้าแล้ว หลังแพทย์ทำการปฐมพยาบาลในเบื้องต้น ได้ส่งตัวรักษาต่อที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ จ.นราธิวาส
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ พล.ต.ไพศาล หนูสังข์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 เข้าไปติดตามเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามและขว้างปาระเบิดไปป์บอมบ์ใส่ฐานปฏิบัติการ กองร้อย ทพ.ที่ 4906 ตั้งอยู่บ้านไอร์กาแซ ม.6 ต.ศรีสาคร เมื่อแล้วเสร็จสิ้นภารกิจ พล.ต.ไพศาล นั่งรถยนต์เพื่อเดินทางกลับ โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิดอโณทัยนำขบวน โดยคันแรกเป็นรถยนต์ตู้ คันที่ 2 เป็นรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นเฟอร์จูนเนอร์สีดำทั้ง 2 คัน ได้ดัดแปลงติดตั้งเครื่องตัดสัญญาณ และคันที่ 3 เป็นรถยนต์ที่ รองแม่ทัพภาคที่ 4 นั่ง และคันที่ 4 เป็นรถยนต์เจ้าหน้าที่ทหารทำหน้าที่ชุดคอฟเวอร์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 ขับตามไล่หลังมาเป็นขบวน
เมื่อถึงจุดเกิดเหตุได้มีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนจุดชนวนระเบิดที่ซุกไว้ใต้ผิวถนนทำให้เกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหวจนเกิดระเบิดขึ้นในขณะรถยนต์คันที่ 2 วิ่งผ่าน ถูกอนุภาพของระเบิดกระเด็นลอยเหนือผิวถนนพร้อมพลิกคว่ำ ไปตกอยบู่ริมถนนห่างจุดระเบิดประมาณ 30 เมตร จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เป็นชนิดแสวงเครื่อง ใช้แบตเตอรี่ที่ลากสายไฟฟ้ายาวเข้าไปในป่า ประมาณ 100 เมตร จุดชนวนระเบิดที่ประกอบใส่ไว้ในถังก๊าสหุงต้ม น้ำหนักไม่ต่ำกว่า 50 กก. ที่คนร้ายนำไปฝังไว้ใต้ผิวถนนก่อนแล้ว
ส่วนเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่คณะรองแม่ทัพภาค 4 เข้าไปตรวจสอบคือ กรณีคนร้ายไม่ทราบฝ่าย ได้ก่อเหตุขว้างปาระเบิดกราดยิงก่อกวนฐานปฏิบัติการซุ่มยิงก่อกวนตรงข้ามฐานปฏิบัติการ ร้อย.ทพ.4906 เบื้องต้นกำลังพลปลอดภัย ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณ ฐานปฏิบัติการ ร้อย.ทพ.4906 บ้านไอร์กาแซ หมู่ที่ 6 ต.ศรีสาคร อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาสจนกระทั่งเกิดเหตุลอบดักระเบิดรถยนต์ขบวนของรองแม่ทัพภาคที่ 4 เกิดขึ้น
