ศปช.เตือนภาคใต้อ่างเก็บน้ำ 9 แห่งมีน้ำกักเก็บมาก 80 – 100%

เมื่อวันที่ 7 พ.ย. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศปช. เปิดเผยว่า สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ประกาศเฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำในพื้นที่ภาคใต้ ได้แก่ อ่างเก็บน้ำบางลาง จ.ยะลา และอ่างเก็บน้ำรัชชประภา จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งปัจจุบันเร่งพร่องน้ำเพื่อรองรับน้ำหลากในช่วงฤดูฝนของภาคใต้ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2567 ถึง มกราคม 2568 และเฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำที่มีน้ำมาก (80-100%) ในพื้นที่ภาคใต้ จำนวน 8 แห่ง ดังนี้ อ่างเก็บน้ำขนาดกลาง จำนวน 7 แห่ง

ทั้งนี้ ประกอบด้วย 1.อ่างเก็บน้ำห้วยวังเต็น อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ 2.อ่างเก็บน้ำห้วยมงคล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ 3.อ่างเก็บน้ำบางกำปรัด อ.เขาพนม จ.กระบี่ 4.อ่างเก็บน้ำห้วยลึก อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ 5.อ่างเก็บน้ำบางวาด อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต 6.อ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต 7.อ่างเก็บน้ำคลองกะทะ อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต อ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก จำนวน 1 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำคลองสวนหนัง อ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี และเฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำที่มีน้ำมาก (มากกว่า 100%) ในพื้นที่ภาคใต้ จำนวน 1 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำคลองหยา อ.ปลายพระยา จ.กระบี่

สำหรับ อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่เฝ้าระวังปริมาณน้ำน้อย จำนวน 3 แห่ง ประกอบด้วย อ่างเก็บน้ำน้ำพุง จ.สกลนคร อ่างเก็บน้ำจาภรณ์ จ.ชัยภูมิ และอ่างเก็บน้ำลำตะคอง จ.นครราชสีมา ซึ่ง สทนช. ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบริหารจัดการน้ำสอดดคล้องกับสถานการณ์ เพื่อสำรองไว้ใช้ในช่วงถูดูแล้งที่จะมาถึงให้ได้มากที่สุด

ด้านกรมทรัพยากรธรณีขอให้ประชาชนพื้นที่ภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ อ.ฝาก เชียงดาว แม่แจ่ม เวียงแหง และ จ.แม่ฮ่องสอน อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ปาย ปางมะผ้า ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ธรณีพิบัติภัยแผ่นดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก ช่วงวันที่ 7 – 9 พฤศจิกายน 2567 ส่วนสถานการณ์อุทกภัยทางภาคใต้ที่ได้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 พ.ย ที่ผ่านมาในพื้นที่จังหวัด นครศรีธรรมราช และกระบี่ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ลงพื้นที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือซึ่งสถานการณ์ในปัจจุบันได้คลี่คลายแล้ว และในส่วนของพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรียังดำเนินการเฝ้าติดตามเร่งระบายน้ำ โดยจะดำเนินการระบายน้ำแล้วเสร็จภายในวันที่ 15 พ.ย. นี้ 

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2567  นาย ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม จะเป็นประธานประชุมคณะทำงานฯ เพื่อรับทราบผลการดำเนินการและเตรียมแผนมาตรการรับมือสถาการณ์อุทกภัยในพื้นที่ส่วนต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง

Message us