“วันนอร์”แย้มเลื่อนโหวตนายกฯรอบ 3 จนกว่าศาลรธน.มีคำวินิจฉัย

เมื่อวันที่ 26 ก.ค. ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ให้สัมภาษณ์ถึงการเลื่อนประชุมรัฐสภาเพื่อสรรหานายกรัฐมนตรีว่า ได้เลื่อนไปเพราะผู้ตรวจการแผ่นดินส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยว่า มติของรัฐสภาในการประชุมเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2566 นั้นขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งประธานรัฐสภามองว่าเป็นเรื่องที่ดี เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้อง หากศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่องไว้ อาจต้องชะลอการประชุมรัฐสภาเพื่อสรรหานายกรัฐมนตรีออกไปก่อน จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีความวินิจฉัย แต่หากศาลรัฐธรรมนูญไม่รับเรื่อง รัฐสภาจะดำเนินการประชุมเพื่อสรรหานายกรัฐมนตรีต่อไปทันทีโดยเร็วที่สุด

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ที่เรางดการประชุมวันที่ 27 กรกฎาคมนั้น ก็อย่างที่ทราบดีว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญว่ามติของสภาฯนั้นขัดแย้ง เขาอยากจะให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ผมว่าก็เป็นเรื่องที่ดี เมื่อมีผู้สงสัยก็ส่งให้องค์กรสูงสุดได้วินิจฉัย จะได้เป็นแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนได้ เพราะว่าศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อมีคำวินิจฉัยแล้วถือว่าทุกองค์กรต้องปฏิบัติ ถึงแม้ว่าศาลจะรับ หรือไม่รับก็เป็นเรื่องที่ดี จำเป็นต้องรอการวินิจฉัยของศาล เพราะว่าการวินิจฉัยของศาลนั้นจะมีผลกระทบต่อการที่เราจะเลือกนายกรัฐมนตรี เพราะถ้าเลือกนายกรัฐมนตรีแล้ว ศาลชี้ให้เห็นว่าวิธีการเลือกไม่ถูกต้อง ก็ต้องย้อนไป ซึ่งไม่ใช่แค่จะเกิดความเสียหายเรื่องเวลา แต่จะมีความเสียหายกับคนที่เราเลือกไปด้วย กับนายกรัฐมนตรีด้วย และกระบวนการต่อไปด้วย

“ต้องรอคำวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีหลายแนวทาง ถ้าไม่รับ สภาฯก็ดำเนินการต่อ ถ้ารับแล้วบอกให้ชะลอเราก็ต้องรอ รอแล้วผลวินิจฉัยก็ออกมาเป็นสองแนวทาง คือปฏิบัติตามเดิม หรือปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 กับข้อบังคับที่ 9 ซึ่งก็สามารถจะเสนอชื่อซ้ำได้ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมือง แต่เป็นเรื่องการปฏิบัติของสภาฯ ไม่ให้เกิดผลเสียหาย และไม่ต้องการให้สมาชิกเสียเวลาโดยใช่เหตุ และประการที่สอง ถ้ามีการประชุมในวันที่ 27 กรกฎาคมนี้ องค์ประชุมก็อาจจะมีปัญหา เพราะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาหลายคนแจ้งว่า ในวันที่ 28 กรกฎาคมนี้จะมีพระราชพิธีที่สำคัญในทุกจังหวัด สส. และ สว.ก็จะไปร่วมในพิธีนั้น ตั้งแต่ตอนเช้า ถ้าประชุมวันที่ 27 ก็จะกลับไปไม่ทัน นี่ก็เป็นเรื่องที่เรากังวลเหมือนกัน นอกจากเหตุผลแรกแล้ว ถ้าเราเลื่อนออกไปก็จะทำให้การประชุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อยมั่นใจกับทุกฝ่ายว่าปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างถูกต้อง”ประธานรัฐสภากล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า การสรรหานายกรัฐมนตรีจะเลื่อนไปจนถึงเดือนสิงหาคมหรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า อยู่ที่การวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในเบื้องต้นก่อนว่าจะรับหรือไม่รับ ถ้าไม่รับก็เดินหน้าต่อไปได้เลย แต่ถ้ารับก็ต้องดูว่าจะสั่งให้ชะลอหรือเปล่า ถ้าไม่สั่งให้ชะลอ จำเป็นต้องรอไหม เพราะถ้ารอนานเกินไปจะเกิดผลเสียหายเหมือนกัน แต่ผมเชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญก็ทราบดีว่าเป็นเหตุการณ์เร่งด่วนพิเศษ ประเทศจำเป็นต้องมีนายกรัฐมนตรี ผมคิดว่าคงพิจารณาเร็วเสร็จเร็ว แต่เราไม่อาจจะคาดการณ์ได้ว่าจะเสร็จเมื่อไร

เมื่อวถามต่อไปอีกว่า หากศาลรัฐธรรมนูญไม่รับเรื่อง การสรรหานายกรัฐมนตรีจะเกิดขึ้นเร็วที่สุดเมื่อไร นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า จะทำทันทีให้เร็วที่สุด เพราะไม่มีอะไร ทันทีที่จะออกหนังสือเชิญประชุมได้ทัน เพียงแต่ว่าช่วงนี้วันหยุดยาวไปหน่อย เมื่อถามถึงประเด็นที่พรรคก้าวไกล เตรียมยื่นเสนอญัตติเดิมทบทวนข้อบังคับที่ 41 ว่าจะสามารถเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีซ้ำได้หรือไม่ จะมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน ประธานรัฐสภากล่าว่า ตอนนี้มันเป็นกระบวนการหนึ่งของรัฐสภาให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ถ้าให้สภาวินิจฉัยแล้วเกิดไม่ตรงกัน มันจะเป็นความขัดแย้งในการปฏิบัติ ซึ่งความจริงสภาได้วินิจฉัยไปแล้วเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม แต่มีผู้เห็นว่ามันขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญก็ส่งให้ศาล ผมว่าน่าจะได้ข้อยุติ ไม่ทราบว่าสภามีความจำเป็นต้องวินิจฉัยหรือไม่ ต้องดูว่าจะเสนอให้วินิจฉัยข้อใด อย่างไร ก็ปรึกษาหารือได้ครับ ต้องดูว่าจะทำได้หรือไม่ ทำได้อย่างไร จะมีปัญหาหรือไม่ เพราะเรื่องไปอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ซึ่งคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญผูกพันรัฐสภา และองค์กรอื่นต้องปฏิบัติหมด เพราะฉะนั้นถ้าเราวินิจฉัยไม่ตรงก็จะเกิดความยุ่งยาก ในการปฏิบัติ

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคก้าวไกลมองว่าการส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิฉัยเป็นการแทรกแซงอำนาจของรัฐสภาหรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ต้องพิจารณาไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ อะไรที่ทำไม่ขัดกับบทบัญญัติรัฐธรรมนูญเขาทำ แต่ที่อะไรที่ทำแล้วขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญก็ต้องว่ากันอีกที

Message us