ลุงวัย 88 ปีสุดอาลัยบ้านพักถูกพายุฤดูร้อนถล่มเหลือแต่ซาก

เมื่อวันที่ 24 เมษายน ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายของบ้านเรือนประชาชน ในพื้นที่หมู่บ้านหัวถนน หมู่ที่ 7 ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา ภายหลังจากที่ถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่มอย่างรุนแรงเมื่อช่วงเย็นวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา พบว่ามีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะที่บ้านเลขที่ 77 ซึ่งเป็นบ้าน 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ ได้ถูกลมพายุพัดถล่มอย่างรุนแรง จนพังเสียหายทั้งหลัง โดยหลังคาเมทัลชีต ได้ปลิวไปกับสายลม จนแทบจะไม่เหลือสภาพความเป็นหลังคาอยู่เลย

ทั้งนี้ ในช่วงเช้าวันนี้ นายอยู่ พันจันทึก อายุ 88 ปี เจ้าของบ้าน ได้มายืนดูสภาพบ้านของตนเองด้วยความเศร้าใจ โดยนายอยู่ เล่าให้ฟังว่า ในช่วงเกิดพายุฤดูร้อน ตนเองนั่งอยู่ชั้นล่าง ได้ยินเสียงลมตีหลังคาอย่างรุนแรง จึงได้วิ่งไปอยู่ในห้องครัวหลังบ้านที่เป็นปูน หลังจากนั้นพายุก็ได้พัดหลังคาและบ้านชั้นที่ 2 พังไปหมด ไม่เคยเห็นอะไรอย่างนี้มาก่อนเลยในชีวิต

นายเสน่ห์ พันจันทึก อายุ 59 ปี ลูกชายนายอยู่ เล่าว่า ตอนเกิดพายุ เป็นเวลาประมาณ 16.30 น. ซึ่งขณะนั้นตนเองอยู่บ้านข้างๆ กันกับพ่อ ได้มองเห็นลมกระโชกแรงพัดหลังคาปลิวหายไปกับตา และเห็นบ้านพังถล่มลงมา จึงรีบวิ่งไปช่วยพ่อ กลัวว่าจะได้รับอันตราย ซึ่งเหตุการณ์พายุฤดูร้อนรุนแรงเช่นนี้เพิ่งเคยเกิดขึ้นแถวนี้ เพราะบ้านหลังนี้ก็สร้างมากว่า 80 ปีแล้ว ยังไม่เคยถูกพายุพัดจนพังเสียหายทั้งหลังเลย โชคดีที่ตอนนั้นพ่อไม่ได้นอนอยู่หน้าบ้าน เพราะตามปกติแก่จะชอบไปนอนอยู่บนแคร่หน้าบ้าน ถ้าไปนอนตรงนั้นก็คงจะไม่รอดแน่ๆ ตอนนี้ชั้นล่างเต็มไปด้วยน้ำ และที่นอนของพ่อก็อยู่ไม่ได้ ต้องไปอยู่กับลูกสายที่ปลูกบ้านใกล้กัน หลังจากนี้ก็ต้องรอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาสำรวจความเสียหาย เพื่อช่วยเหลือเยียวยา ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะได้รับการช่วยเหลือมากน้อยเพียงใด

ขณะที่ นายพนัส ณ วันทุ ผู้ใหญ่บ้านหัวถนน หมู่ที่ 7 ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา กล่าวว่า ภายหลังจากที่เกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มหมู่บ้าน ตนเองและผู้นำชุมชน ก็ได้ออกสำรวจความเสียหาย พบว่ามีบ้านเรือนของประชาชนในพื้นที่หมู่บ้านหัวถนนเสียหายทั้งหมด 15 หลังคาเรือน ส่วนใหญ่เป็นหลังคาถูกลมพัดเสียหาย และมีบ้านของนายอยู่ พันจันทึก ได้รับความเสียหายหนักที่สุด คือบ้านพังทั้งหลัง ไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ ซึ่งตนเองก็ได้ถ่ายรูปและเขียนรายงานส่งไปให้ทางเทศบาลตำบลหัวทะเลแล้ว เพื่อให้การช่วยเหลือเยียวยาในเบื้องต้น และรายงานต่อไปยังจังหวัดเพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบราชการต่อไป

ด้าน สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมา รายงานว่า เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (23 เมษายน ) ได้เกิดพายุฤดูร้อนถล่มบ้านเรือนประชาชนในหลายพื้นที่ของ จ.นครราชสีมา โดยเฉพาะในพื้นที่ ต.บึงปรือ และ ต.หนองแวง อ.เทพารักษ์ ถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่ม 7 หมู่บ้าน มีบ้านเรือนพังเสียหายถึง 14 หลังคาเรือน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือเยียวยาต่อไป

ข่าว/ภาพ : นายประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครราชสีมา

Message us