เมื่อวันที่ 10 มีนาคม เขื่อนมูลบน ทตำบลจระเข้หิน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา 1 ใน 4 เขื่อนหลักของจังหวัดนครราชสีมา ยังคงต้องปล่อยน้ำลงสู่คลองธรรมชาติต้นกำเนินลำน้ำมูลที่อยู่ด้านท้ายเขื่อนวันละกว่า 1 แสนลูกบาศก์เมตร เพื่อรักษาระบบนิเวศน์ของลำน้ำและเพื่อการนำไปใช้ในระบบประปาเพื่อการอุปโภคบริโภค
ทั้งนี้ ตลอดแนวริมลำน้ำมูล ยังคงมีชาวนาส่วนใหญ่ทำการเพาะปลูกข้าวนาปรัง แม้ว่าทางหน่วยงานราชการในพื้นที่จะได้ประชาสัมพันธ์ ขอความร่วมมือให้งดการทำนาปรังในปีนี้ เนื่องจากปริมาณน้ำภายในเขื่อนมีปริมาณน้อย และจำเป็นต้องสงวนน้ำเอาไว้ใช้เพื่อการอุปโภคบริโภคไปแล้วก็ตาม แม้ว่าทางเขื่อนจะยังคงมีการปล่อยน้ำลงลำธรรมชาติ แต่ก็แทบไม่มีผลเพราะปริมาณน้ำภายในลำน้ำมูลตอนได้แห้งขอดเป็นช่วงๆ ตั้งแต่น้ำออกจากเขื่อนได้ไม่ถึง 10 กิโลเมตร ทั้งที่ทางเขื่อนจะต้องเก็บน้ำเพื่อรักษาระบบนิเวศน์ภายในลำน้ำมูลตลอดทั้งสายยาวถึง 120 กิโลเมตร
นายณรงค์ มัดทองหลาง ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามูลบน ซึ่งกำกับดูแลการบริหารจัดการน้ำเขื่อนมูลบน แหล่งน้ำดิบหลักของลำน้ำมูล ที่ตั้งอยู่ที่ ต.จระเข้หิน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า ปริมาณน้ำภายในเขื่อนล่าสุดเหลืออยู่ที่ 68.2 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุกักเก็บทั้งหมดที่ 141 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 48 ของความจุ ปัจจุบันยังคงส่งน้ำลงคลองธรรมชาติด้านท้ายเขื่อน เพื่อการอุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศน์วันละกว่า 1 แสนลูกบาศก์เมตร ถือว่าสูงกว่าแผนที่วางไว้กว่าเท่าตัว แต่ก็ยังต้องประสบกับปัญหาชาวนาที่ปลูกข้าวนาปรังสูบน้ำขึ้นไปใช้ในการเพาะปลูก แม้ก่อนหน้านี้จะมีการขอความร่วมมือให้ชาวนางดการทำนาปรังไปแล้วก็ตาม ทำให้ปริมาณน้ำภายในลำมูลมีสภาพแห้งขอดเป็นช่วงๆ เพราะมีพื้นที่การเพาะปลูกข้าวนาปรังจำนวนมาก
จากการสำรวจเบื้องต้นพบว่าน่าจะมีการปลูกข้าวนาปรังในพื้นที่ด้านท้ายเขื่อนที่อยู่ติดกับลำมูลและลำน้ำสาขาไปแล้วกว่า 25,000 ไร่ ทำให้ตอนนี้เกิดผลกระทบลำน้ำมูลแห้งขอดเป็นช่วงๆ โดยเฉพาะบริเวณสถานีสูบน้ำดิบของการประปาส่วนภูมิภาคตำบลท่าช้าง อ.เฉลิมพระเกียรติ ที่อยู่ห่างจากตัวเขื่อนไปกว่า 120 กิโลเมตร หากทางการประปาส่วนภูมิภาคต้องการที่จะให้ทางเขื่อนส่งน้ำไปสนับสนุน อาจจะต้องมีการวางมาตรการป้องกันต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่าการส่งน้ำในระยะทาง 120 กิโลเมตร จะเดินทางไปถึง เพราะตลอดลำน้ำยังคงมีการสูบน้ำเพื่อทำนาปรังกันตลอดทั้งสองฝั่งลำมูล หากส่งน้ำไปโดยไม่มีมาตรการเสริม จะทำให้ประสิทธิภาพในการส่งน้ำต่ำ และสูญเสียน้ำเป็นจำนวนมาก
ข่าว/ภาพ : ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครราชสีมา
