ฤทธิ์พายุฝนถล่มเมืองชัยภูมิรอบ 2 เสียหายเป็นวงกว้าง

เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. วันที่ 24 พ.ค. ในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ได้เกิดพายุฝนต้นฤดูฝนจากอิทธิพลร่องมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ทำให้เกิดทั้งฝนและลมกระโชกแรงในหลายพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ในเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ ได้เกิดพายุฝนกระหน่ำลมกระโชกแรง ชาวบ้านอาศัยอยู่ในบ้านบริเวณถนนราชพฤษในเมืองชัยภูมิ ได้หยิบโทรศัพท์มาถ่ายภาพขณะเกิดพายุฝนซัดถล่มลงมาในพื้นที่ ทำให้เกิดน้ำท่วมรอการระบายตามถนนเส้นทางต่างทั้งเมืองประมาณ 30 นาที น้ำท่วมผิวถนนจึงได้ลดลงเข้าสู่ภาวะปกติ 

ทัั้งนี้ จากการเกิดพายุฝนถล่มได้ซัดเอากิ่งไม้ขนาดใหญ่ ตามสองข้างถนนหักโค้นลงมากองอยู่กับพื้นถนนจำนวนมาก เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองชัยภูมิ ได้เร่งสำรวจตามถนนเส้นทางต่าง ๆ เพื่อเร่งเปิดเส้นทางอำนวยการจราจรให้กับประชาชนที่ผ่านไปมา หนักสุดต้นไม้ขนาดใหญ่ริมถนนสายเข้าชุมชนโนนสมอ แรงลมได้พัดเอาทั้งกิ่งรวมทั้งลำต้นไม้ ได้ล้มลงกีดขวางปิดถนนไม่สามารถผ่านได้ เข้าออกชุมชนโนนสมอต้องใช้ถนนอีกด้าน หน้าวัดชัยภูมิวนาราม เข้าออกชุมชนแทน เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองชัยภูมิ ต้องเร่งใช้เครื่องเลื่อยยนตร์ตัดกิ่งต้นไม้ที่ล้มขวางถนนอย่างเร่งด่วน

ส่วนที่ อ.บ้านเขว้า ได้เกิดพายุฝนพัดถล่มลงมาอย่างหนัก  ได้เกิดน้ำท่วมขังผิวการจราจร บนถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ ช่วงบ้านหนองบัวขาว เขตอำเภอเมืองชัยภูมิ และที่บริเวณบ้านโนนแดง อ.บ้านเขว้า ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างขยายเป็น 4 ช่องจราจร การก่อสร้างถนนยังไม่แล้วเสร็จ แต่ไม่มีไฟส่องสว่างให้ผู้ใช้รถใช้ถนนได้มองเห็น ผู้ใช้รถใช้ถนนที่ไม่ชินทาง ได้ขับรถผ่าลมฝนตกหนัก จนทำให้รถเสียหลักลงไหล่ทางจมน้ำทันที ได้รับความเสียหาย 2 คัน ทั้งรถยนต์กระบะ และรถเก๋ง เคราะห์ยังดีที่ทั้งคนขับรถ และผู้ที่นั่งอยู่ในรถได้หนีตายออกจากตัวรถได้ทัน ก่อนที่น้ำจะท่วมมิดคัน ก่อนขึ้นไปรอการช่วยเหลืออยู่ที่บริเวณข้างทาง

จากการสอบถามนายชาย ผู้ประสพเหตุระทึก อายุประมาณ 50 ปี รายหนึ่งได้ เล่าว่า ขณะที่ตนเองเดินทางกลับจากอำเภอซับใหญ่กำลังจะมุ่งหน้ากลับบ้านที่จังหวัดขอนแก่น มาถึงจุดเกิดเหตุมีฝนตกหนักด้วยความไม่ชินทาง บวกกับความแรงของลมพายุ จึงตัดสินใจวิ่งฉลอบนไหล่ทาง แต่ก็เสียหลักจนรถตกถนนลงไปข้างทางอย่างที่เห็นซึ่งเหตุครั้งนี้ตนเองรู้สึกตกใจมาก

ทั้งนี้ จึงอยากฝากหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่อง ถนนสาย 225 ชัยภูมิ -นครสวรรค์ ที่ยังไม่แล้วเสร็จ หากมีการเพิ่มไฟแสงสว่างในตอนกลางคืนให้มากกว่านี้ จะช่วยลดการอุบัติเหตุได้เป็นอย่างดี

ข่าว/ภาพ : มัฆวาน วรรณกุล ผู้สื่อข่าวจังหวัดชัยภูมิ

Message us