ร้อยเอ็ดเร่งทำแนวกันไฟป่าตัดตอน PM 2.5 ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าผาน้ำทิพย์

เมื่อวันที่ 6 ก.พ. นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วย นายอัครเดช วงศ์กาฬสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดร้อยเอ็ด นายมงคล ยีรัมย์ เกษตรจังหวัดร้อยเอ็ด นายธรณิศ เทพแพงตา ปภ.จังหวัดร้อยเอ็ด ตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด เกษตรและสหกรณ์จังหวัดร้อยเอ็ด หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าผาน้ำทิพย์ สถานีควบคุมไฟป่าดงบังอี่-ถ้ำผาน้ำทิพย์ และเครือข่ายอาสาอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดร้อยเอ็ด(ทสม) ร่วมด้วยช่วยกันทำแนวกันไฟ เพื่อป้องกันเหตุไฟไหม้ลามป่าในพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าผาน้ำทิพย์ ณ บริเวณทางขึ้นพระมหาเจดีย์ชัยมงคล ตำบลผาน้ำย้อย อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด

ทั้งนี้ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าผาน้ำทิพย์มีพื้นที่ป่าที่กว้างใหญ่กว่า 44,000 ไร่ ที่มีหน่วยงานที่ดูแลอย่างใกล้ชิด คือเขตห้ามล่าสัตว์ป่าผาน้ำทิพย์ สถานีควบคุมไฟป่าดงบังอี่-ถ้ำผาน้ำทิพย์ แต่ยังคงมีการลักลอบหาสัตว์ป่าและมีการเผาป่าอยู่ต่อเนื่อง ขนาดที่ทางจังหวัดร้อยเอ็ด โดยสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก็ได้มีการกวดขันรณรงค์การงดเผา ทั้งในพื้นที่ทำการเกษตรของพี่น้องเกษตรกร พื้นที่สุ่มเสี่ยงที่จะมีการก่อให้เกิดไฟลามทุ่ง ลามป่า เข้าไปยังเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหาน้ำทิพย์อย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน เพราะจะส่งผลทำให้เกิดการสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและที่สำคัญในระหว่างนี้อยู่ในช่วงการรณรงค์งดเผาลดฝุ่น PM 2.5 เพื่ออากาศที่ดีมีคุณภาพสำหรับทุกคน

นายชัชวาลย์ กล่าวว่า จังหวัดร้อยเอ็ดร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อจัดรณรงค์ประชาสัมพันธ์ไม่ให้มีการเผาป่า แต่อีกส่วนหนึ่งก็คือ ได้มาสังเกตการณ์การทำงานของหน่วยดับไฟป่าของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่มี 2 กรม หลักที่ดูแลอยู่ คือกรมอุทยานและกรมป่าไม้ โดยมีหน่วยงานที่รับผิดชอบคือเขตห้ามล่าสัตว์ป่าผาน้ำทิพย์ สถานีควบคุมไฟป่าดงบังอี่-ถ้ำผาน้ำทิพย์ ที่มีหน้าที่หลักนั่นคือการดับไฟป่าและการเฝ้าระวังไฟป่า การป้องกันไฟป่าไม่ให้ไฟป่าลุกลาม จึงต้องมีการทำแนวกันไฟเพื่อที่จะเป็นแนวกั้นหรือเบรคไฟ โดยเฉพาะหน้าแล้งมีใบไม้ร่วงหล่นลงมามากทำให้มีใบไม้แห้งปกคลุมผืนป่าทำให้เกิดเป็นเชื้อเพลิง ดังนั้นเราจึงมาช่วยกันทำให้เป็นแนวกันไฟเป็นทางเดินในป่าระยะห่าง 3-4 เมตร ในส่วนของใบไม้ที่มีปริมาณมาก หลายพื้นที่ก็จะนำทำเป็นแพ็คเกจสามารถนำไปเป็นเชื้อเพลิงในครัวเรือนได้ และวันนี้ต้องขอบคุณทางอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทสม.)ได้มาช่วยกัน

นอกจากนั้น ที่สำคัญทุกคนต้องช่วยกันใช้ป่าให้ถูกวิธี คือต้องมีการช่วยกันอนุรักษ์ป่า ให้ปลายังคงอยู่ ให้ป่ายังเป็นแหล่งทำมาหากิน เป็นปอด เป็นแหล่งที่อุดมสมบูรณ์ในโลกนี้ เพราะถ้าคนอยู่ได้ป่าอยู่ไม่ได้ สุดท้ายคนก็จะอยู่ไม่ได้ เพราะฉะนั้นทั้งคนและป่าต้องอยู่ด้วยกัน ผวจ.ร้อยเอ็ด กล่าวในที่สุดกิจกรรมประกอบด้วย การสาธิตการใช้อุปกรณ์พื้นฐานในการทำแนวกันไฟ การสาธิตใช้เครื่องดับเพลิงระยะไกล ของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดร้อยเอ็ด การให้ความรู้เรื่องไฟป่า หลังจากนั้น ทุกฝ่ายได้ร่วมกันจัดทำแนวกันไฟ ด้วยเครื่องจักรขนาดเล็กและเครื่องมือขั้นพื้นฐาน ในบริเวณรอบๆป่าทางขึ้นพระมหาเจดีย์ชัยมงคล เขตห้ามล่าสัตว์ป่าผาน้ำทิพย์ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเป็นแนวกันไฟ เมื่อเกิดเหตุได้อย่างแน่นอน

ข่าว/ภาพ : คมกฤช พวงศรีเคน ผู้สื่อข่าวจังหวัดร้อยเอ็ด

Message us