รัฐสภารับหลักการร่างแก้ไข พ.ร.ป.ป.ป.ช. 2 ฉบับตั้งกมธ.39 คนแปรญัตติ 15 วัน

เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมรัฐสภา ซึ่งมีวาระพิจารณาเรื่องด่วน คือ ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่…) พ.ศ… ซึ่งเสนอโดย คณะรัฐมนตรี (ครม.) และฉบับที่เสนอโดยนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคปรระชาชน ทั้งนี้ที่ประชุมได้รวมการพิจารณาไปในคราวเดียวกันแต่ละแยกลงมติ

สารสำคัญของร่างพ.ร.ป.ป.ป.ช.ฉบับแก้ไข ที่เสนอโดย ครม. นั้น เป็นการเพิ่มเนื้อหาสาระว่าด้วยการกำหนดบทคุ้มครองผู้ที่แจ้งเบาะแสหรือข้อมูลแก่ หรือแสดงความเห็นต่อป.ป.ช. เกี่ยวกับการทำผิดที่อยู่ในอำนาจและหน้าที่ของ ป.ป.ช. ไม่ให้รับผิดทางแพ่ง ทางอาญา หรือทางวินัย รวมถึงกำหนดมาตรการช่วยเหลือบุคคลที่ให้ข้อมูล เบาะแสดังกล่าวด้วย และยังกำหนดมาตรการปล่อยตัวชั่วคราวให้กับบุคคลที่ถูกกล่าวโทษ หรือถูกฟ้องร้องเพื่อปิดปาก ทั้งนี้เพื่อให้เป็นมาตรการช่วยเหลือประชาชนให้มีส่วนร่วมในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต

ขณะที่ ฉบับของพรรคประชาชน มีสาระสำคัญ คือ ให้บุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารที่เป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดีทุจริตประพฤติมิชอบ เข้าสู่กระบวนการพิจารณาและพิพากษาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ จากเดิมที่ พ.ร.ป. ป.ป.ช. พ.ศ.2561 กำหนดให้อยู่ในขอบเขตของธรรมนูญศาลทหาร และให้อัยการทหารดำเนินการ รวมถึงโอนย้ายคดีทุจริตประพฤติมิชอบที่อยู่ระหว่างการดำเนินคดีของศาลทหารไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินการในศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ

ในการแสดงความคิดเห็นของ สมาชิกรัฐสภา โดยเฉพาะ สว.  อาทิ นางอังคณา นีลไพจิตร น.ส.นันทนา นันทวโรภาส นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย สว.กลุ่มพันธุ์ใหม่ รวมถึง สส.พรรคประชาชนที่อภิปรายแสดงท่าทีสนับสนุนการแก้ไขเพิ่มเติมร่างพ.ร.ป. ทั้ง 2 ฉบับ แต่ได้เน้นการอภิปรายให้ใช้กระบวนการยุติธรรมของพลเรือนตัดสินนายพลที่มีประเด็นทุจริตประพฤติมิชอบ เพราะมองว่าเป็นมาตรการสำคัญของการป้องกันการทุจริต ประพฤติมิชอบที่เท่าเทียมกัน

แต่พบว่าในส่วนของ สว. มีเสียงคัดค้าน โดย พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา สว. อภิปรายว่า ตนไม่เห็นด้วยกับ ร่างพ.ร.ป.ป.ป.ช.ที่เสนอโดยนายวิโรจน์ เนื่องจากขัดกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 199 ที่กำหนดให้ศาลทหารมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีอาญาของทหาร ทั้งนี้คดีทุจริตถือเป็นคดีอาญาประเภทหนึ่ง นอกจากนั้นแล้วศาลทหารใช้ระบบไต่สวน ตั้งแต่ พ.ศ.2559  พร้อมกับศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบ ได้ประสานการปฏิบัติมาตั้งแต่ต้นและเริ่มพร้อมกัน ทั้งนี้ศาลทหารได้พัฒนาบุคลากร ตั้งแต่การอบรมและการศึกษา รวมถึงพัฒนาเครื่องมือมีความพร้อมซึ่งได้เชิญวิทยากรจากกระบวนการยุติธรรม

“ขอให้พูดเรื่องความจริง อย่าพูดเรื่องเท็จจริง ในปี2565-2566 พบว่ามีการดำเนินคดี 98% มีคดียกฟ้อง 1% ดังนั้นกล่าวอ้างว่าทหารรช่วยเหลือกันเล่นพรรคเล่นพวก แต่ศาลทหารทรงความยุติธรรม ทั้งนี้ไม่จำเป็นต้องแก้ไข และคิดว่าประชาชนกำลังดูเราอยู่ ที่พบว่าฉบับของนายวิโรจน์บอกว่าทำเพื่อประชาชน ดูจากผลการรับฟังความเห็น รวม 60 วัน ผลการรับฟังความเห็น มีผู้ร่วมชม 399 คน มีผู้แสดงความเห็น 14 คน เห็นด้วย 6 คน ไม่เห็นด้วย 7 คน ไหนอ้างว่าฉบับนี้ทำเพื่อประชาน ผมอยากรู้ว่าประชานทราบเรื่องนี้มากแค่ไหน  ผมคิดว่าหากผมได้รับฟังความเห็นและประชาชนสนใจมากแบบนี้ น่าจะยกเลิกเรื่องนี้ ไม่น่าจะเป็นภาระของสภา” พล.อ.สวัสดิ์ กล่าว

ขณะที่ การอภิปรายของ สส. เป็นที่น่าสังเกตว่าในส่วนของ สส.พรรคร่วมรัฐบาลที่ลุกอภิปรายได้แสดงความเห็นสนับสนุนร่างแก้ไข พ.ร.ป. ป.ป.ช. ฉบับที่ ครม. เสนอเพียงฉบับเดียว ยกเว้นในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ที่นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ สส.สงขลา พรรคภูมิใจไทย อภิปรายสนับสนุนทั้ง 2 ฉบับ และตั้งข้อสังเกตว่า ร่างพ.ร.ป.ของครม. กำหนดบทคุ้มครองพยานและผู้ร้องเพื่อประโยชน์ในทางคดีของ ป.ป.ช. ทั้งนี้หากมีกรณี คือ 1.ผู้แจ้งและพยานมีเจตนากลั่นแกล้ง 2.พยานกลับคำให้การในชั้นพนักงานสอบสวน 3.ผลการตัดสินพิจารณาของ ป.ป.ช. คณะใหญ่ยกคำร้อง 4.ป.ป.ช.ยื่นอัยการแต่อัยการสั่งไม่ฟ้อง และ 5.ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองถูกตัดสินไม่ผิดคดีทุจริตที่ ป.ป.ช.ส่ง นั้น ผู้แจ้งเบาะแส พยานนั้นได้รับความคุ้มครองหรือไม่

“กรณีที่ถูก ป.ป.ช.ตรวจสอบ บุคคลที่ถูกร้องจะมีผลกระทบต่อการเลื่อนขั้น รวมถึงมีผลทางการเมือง ที่สส.ไม่สามารถได้เป็นรัฐมนตรีเพราะถูก ป.ป.ช. สอบ  นักการเมืองที่มีมลทินจะไม่ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ จะแก้ปัญหาอย่างไร เพราะเขาไม่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายใดๆ ถูกริดรอนสิทธิ ดังนั้นกมธ.วิสามัญที่ตั้งขึ้น ให้ความเป็นธรรมผู้แจ้งเบาะแส ผู้กล่าวหา ผู้ถูกกล่าวหา หน่วยงานของรัฐที่เสียหาย และหน่วยงานที่มีหน้าที่ตรวจสอบด้วย” นายณัฏฐ์ชนน กล่าว

หลังสมาชิกรัฐสภา อภิปรายเสร็จสิ้น ที่ประชุมได้ลงมติรับหลักการร่างพ.ร.บ.ฯ ฉบับ ครม. 493 เสียง ไม่เห็นด้วย 1 เสียง งดออกเสียง 1 ไม่ลงคะแนนไม่มี ถือว่า ที่ประชุมรับหลักการ ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต และตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ จำนวน 35 คน แปรญัตติ 15 วัน

จากนั้น ลงมติ ร่างพ.ร.บ.ฯ ฉบับนายวิโรจน์ เห็นด้วย 354 เสียง ไม่เห็นด้วย 129 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง ไม่ลงคะแนน 3 เสียง โดยใช้กมธ.ฯ ชุดเดียวกับฉบับ ครม.เสนอ โดยใช้ร่างของครม.เป็นร่างหลัก ก่อนปิดประชุมนายวันมูหะมัดนอร์ ได้แจ้งว่า จะมีการประชุมร่วมกันของรัฐสภาอีกครั้งเพื่อพิจารณาวาระเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่บรรจุระเบียบวาระไปแล้ว โดยจะมีการประชุมในวันที่ 14-15 ม.ค. 2568

Message us