
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พร้อมด้วย นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค ได้พบปะพูดคุยและรับฟังปัญหาจากแกนนำกลุ่มชาติพันธุ์ (ชาวไทยภูเขา) นำโดย นายชินกร ก้าววิทยาคม นายกสมาคมลัวะแห่งประเทศไทย พร้อมแกนนำกลุ่มชาติพันธุ์ ในพื้นที่ภาคเหนือเข้าร่วมหารือ ณ โรงแรมมายโฮเต็ล ซีเอ็มวายเค แอท รัชดา
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยว่า หลังจากการพูดคุยหารือกับกลุ่มแกนนำชาติพันธุ์ทราบว่า ปัญหาของคนชาติพันธุ์มี 4 เรื่อง กล่าวคือ 1.เรื่องที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน มีความขัดแย้งกันระหว่างกฏหมายกับสภาพป่าตามข้อเท็จจริง คือ ป่าสิ้นสภาพแล้ว แต่กฎหมายยังใช้อำนาจโดยสภาพป่ากรณีจังหวัดเลย มีสภาพเป็นทุ่งหญ้า แต่ปรากฏในกฏหมายว่าเป็นเขตป่า นอกจากนี้ในพื้นที่เดียวกันมีหลายหน่วยงานที่รับผิดชอบ เช่น กรมป่าไม้ กรมพัฒนาที่ดิน กรมส่งเสริมการเกษตร เป็นต้น

2.เรื่องกฏหมายต่างๆ ที่แบ่งแยกคนออกเป็นประเภทต่างๆ เช่น หมายเลขบัตรประชาชนที่ขึ้นต้นด้วยเลข 8 ซึ่งส่งผลต่อการใช้สิทธิด้านต่างๆ ต้องได้รับการแก้ไข 3.เรื่องการเข้าถึงสิทธิการบริการของรัฐต้องทั่วถึงและเป็นธรรม และ 4.เรื่องการเดินทางต่างประเทศเพื่อการทำมาหากิน ควรมีระเบียบ กฏหมายที่เอื้อต่อข้อเท็จจริงตามสภาพของแต่ละบุคคล
ทั้งนี้ จากข้อปัญหาเหล่านี้ จึงควรมีกฏหมายว่าด้วยการทำมาหากินในพื้นที่สูง ที่ครอบคลุมกฎหมายต่างๆ ที่ไม่เอื้อต่อสภาพการใช้ชีวิตคนบนดอย ต้องได้รับการแก้ไข เพื่อให้คนไทยทุกคนมีโอกาสเท่าเทียมกัน ในการนี้ควรมีกองทุนฉุกเฉินเพื่อให้ผู้ยากไร้กู้ยืมเงิน อีกทั้งบริการตามสภาพปัญหาของแต่ละคนด้วย เช่น บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ อาจให้กู้เป็นเงินก้อนแล้วทยอยจ่ายคืนเป็นรายเดือน โดยการหักหนี้คืนในระบบการจ่ายเงินสวัสดิการฯเป็นต้น

ด้าน นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค กล่าวว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ เน้นเรื่องการธำรงรักษาเสาหลักของชาติ คือสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ตามสโลแกนพรรคว่า”สู้กับทุกปัญหา พึ่งพาได้ทุกเรื่อง”ให้ประเทศต้องเดินต่อได้
ด้าน ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้นำข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ แจ้งให้ทางพรรคฯทราบ โดยเฉพาะเรื่องความเป็นธรรมและความเท่าเทียมของคนไทยทุกคน ซึ่งแต่ก่อนนี้กลุ่มชาติพันธุ์ถูกมองว่า เป็นผู้บุกรุกผู้ทำลายป่า จากการทำมาหากิน ไม่ว่าการปลูกฝิ่น การอพยพ จนทำให้เกิดเป็นประเด็นและปัญหาเกี่ยวกับความมั่งคง จนถูกเลือกปฏิบัติ ที่ไม่เป็นธรรม จากปัญหาดังกล่าว ในปัจจุบันยังพบว่าพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์ ยังขาดสิทธิการเข้าถึงโอกาสการบริการของรัฐ เช่น การทำมาหากินในเขตป่าสงวน หรืออุทยานแห่งชาติ เป็นต้น

จากนั้น นายพีระพันธุ์ นายเอกนัฏ และดร.หิมาลัย พร้อมคณะ ได้พบปะพูดคุยรับฟังปัญหาจากประธานกลุ่มลำไยจาก 3 จังหวัดภาคเหนือ นำโดย จ.ส.ต.นิกร บุญชัย ประธานกลุ่มลำไย จังหวัดเชียงราย นายประจวบ ทาก๊า ประธานกลุ่มลำไยแปลงใหญ่ จังหวัดเชียงใหม่ อาจารย์สนั่น มีสอน ประธานกลุ่มลำไย จังหวัดลำพูน และตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกลำไยภาคเหนือ เข้าร่วมหารือ โดยประเด็นสำคัญ เรื่องการเยียวยาและเรื่องประกันรายได้ รวมทั้งปัญหาลำไยตกต่ำ ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกลำไยในพื้นที่ภาคเหนือได้รับผลกระทบและได้รับความเดือดร้อนในเรื่องดังกล่าว
นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า หลังจากได้พูดคุย และทราบปัญหาต่างๆ ของแกนนำกลุ่มชาติพันธุ์ (ชาวไทยภูเขา) พร้อมเดินหน้าแก้ปัญหาระยะยาวและยั่งยืน รวมทั้งได้พูดคุยกับประธานกลุ่มลำไยจาก 3 จังหวัดภาคเหนือ ซึ่งปัญหาดังกล่าวเจ้าหน้าที่ดำเนินการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง