พลิกประวัติ”บ้านพิบูลธรรม”เชิงสะพานกษัตริย์ศึกอาคารสุดคลาสสิค

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน ถือฤกษ์ เวลา 15.00 น.ของวันที่ 13 กันยายน เดินทางเข้าทำงานในตำแหน่งรมว.พลังงาน หลังจากประชุมคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นลง โดยเลือกใช้บ้านพิบูลธรรม เลขที่ 17 เชิงสะพานกษัตริย์ศึก ถนนพระรามที่ 1 แขวงรองเมือง เขตปทุมวันเป็นสถานที่ทำงานแทนกระทรวงพลังงานเดิมที่อยู่ย่านถนนวิภาวดี

ทันทีที่มาถึง นายพีระพันธุ์ ได้เข้าสักการะพระพุทธรูปสิ่งศักดิ์สิทธิ พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 5พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 6 พร้อมวางพวงมาลัยทำความเคารพภาพถ่ายของ ม.ร.ว.ปุ้ม มาลากุล อดีตเจ้าของบ้านพิบูลธรรม และสักการะศาลพ่อปู่สิงห์ สุรชัยยะเทวะ ด้านหน้าอาคาร

สำหรับบ้านพิบูลธรรมเป็นอาคารเก่าแก่สวยงาม และทรงคุณค่า มีประวัติความเป็นมาไม่ต่างจากทำเนียบรัฐบาล วันนี้ จึงพามาดู “บ้านพิบูลธรรม” ว่ามีประวัติความเป็นมาน่าสนใจอย่างไร เดิมชื่อว่า “บ้านนนที” ก่อสร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 ประมาณปี พ.ศ. 2440 ในเนื้อที่ประมาณ 4-5 ไร่ ต่อมาเมื่อเกิดทางรถไฟสายเหนือขึ้นที่สถานีหัวลำโพง ที่ดินบางส่วนของบ้านจึงต้องถูกเวนคืนให้แก่ทางราชการเพื่อสร้างทางรถไฟ ทำให้เนื้อที่ของบ้านถูกแยกออกเป็นสองส่วน มีทางรถไฟผ่าเกือบกลางเนื้อที่ โดยด้านหนึ่งติดริมคลองผดุงกรุงเกษมอีกด้านหนึ่งติดทางรถไฟสายเหนือ และวัดบรมนิวาสราชวิหาร ด้านหน้าติดถนนพระราม 1 และด้านท้ายติดห้องแถวตลาดโบ้เบ้

บ้านนนที เดิมมีหลังเดียวคือ ตึกกลาง (หรืออาคาร 1 ในปัจจุบัน) ม.ร.ว.ปุ้ม มาลากุล ได้รับพระราชทานทั้งที่ดินและบ้านจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ขณะดำรงตำแหน่งเป็น พระยาอนุรักษราชมณเฑียร ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 6 ประมาณปี พ.ศ. 2456 ม.ร.ว.ปุ้ม มาลากุล ได้ดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงวัง มียศเป็นเจ้าพระยาธรรมาธิกรณาธิบดี หลังจากรับราชการในตำแหน่งนี้มาได้ประมาณ 8-10 ปี พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานเงินให้สร้างตึกอีกหลังหนึ่งพร้อมกับบริเวณและตกแต่งอาคารหลังเดิมใหม่ เพื่อที่จะเสด็จมาประทับชั่วคราว  โดยในการก่อสร้างออกแบบอาคารทำโดยวิศวกรและสถาปนิกชาวอิตาเลียนทั้งหมด และตกแต่งแกะลวดลายไม้ต่างๆ โดยนายช่างเป็นชาวเซี่ยงที่ร่วมกับนายช่างไทย และมีศิลปินชาวอิตาเลียนเขียนภาพเพดานและภาพฝาผนังภายในห้องต่าง ๆ

ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 บ้านนนทีถูกระเบิดที่ฝ่ายสัมพันธมิตรนำมาทิ้งโจมตีสถานีรถไฟหัวลำโพง แต่ลูกระเบิดไม่ถูกเป้าหมายกลับมาลงที่บ้านนนทีหลายลูก ทำให้ได้รับความเสียหายอย่างหนัก เกินกว่าที่เจ้าของบ้านจะซ่อมแซมให้คืนสภาพเดิมได้ ทางเจ้าของบ้านคือ หม่อมหลวงปีกทิพย์ มาลากุล จึงได้เสนอขายให้แก่ทางรัฐบาลติดต่อกันมาหลายปี จนถึงปี พ.ศ.2498 รัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้อนุมัติให้โรงงานยาสูบซื้อไว้เป็นสถานที่ราชการ และเปลี่ยนชื่อจาก “บ้านนนที” เป็น “บ้านพิบูลธรรม” และถูกใช้เป็นบ้านรับรองของรัฐบาล จนกระทั่งในวันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2502 การพลังงานแห่งชาติ (หรือกรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงาน ที่ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ) ใช้มาจนถึงปัจจุบัน

Message us