เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม พ.ต.อ.นาวิน สินธุรัตน์ ผกก.สภ.บางละมุง ได้รับแจ้งมีดาบตำรวจ สังกัด สภ.นาจอมเทียน ใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้า ที่บริเวณร้านขายของชำ ซอยเขาน้อย ก่อนถึงถนนเลียบทางรถไฟ ม.5 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงรายงานให้ พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี รับทราบ ก่อนนำกำลังชุดสืบสวนและสายตรวจ เดินทางไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงพบว่า ด.ต.สุนทร ผบ.หมู่ป้องกันปราบปราม เป็นผู้ก่อเหตุ ได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนี ไปก่อนหน้าตำรวจจะมาถึง โดย ป้าหน่อย แม่ค้าขายอาหารตามสั่ง เล่าว่า ช่วงกลางวันที่ผ่านมา ด.ต.สุนทร เข้ามานั่งดื่มสุรา และสูบกัญชา ที่ร้านขายของชำจนเมามาย กระทั่งช่วงบ่าย ด.ต.สุนทร ได้เข้ามาสั่งข้าวกระเพราทะเลราดข้าว 1 จาน แต่แม่ค้าปฏิเสธที่จะผัดข้าวให้ เนื่องจากเจ้าตัวติดหนี้ แถมยังว่าร้ายแม่ค้าชอบคิดเงินเกิน
ทำให้ ด.ต.สุนทร ไม่พอใจชักอาวุธปืนขึ้นมายิงขึ้นฟ้าจำนวน 3 นัดรวด แล้วหันกลับมาข่มขู่คนในละแวกนั้นบอกจะกลับมายิงหัวให้หมดทุกคน ก่อนขับรถจักรยานยนต์หลบหนี มุ่งหน้าขึ้นไปวัดบุญสัมพันธ์ จากนั้นไม่นานมีคนวิ่งมาบอกว่าให้ระวัง ด.ต.สุนทร ล่าสุดไปใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าอีกจำนวน 1 นัด เพราะโมโหพนักงานเซเว่นไม่ยอมขายสุราให้ ก่อนจะขับหลบหนีเข้าไปในบ้านพัก ที่ซอย 5 บุญสัมพันธ์ และใช้ปืนยิงขึ้นฟ้าอีก 1 นัด รวมทั้งหมด 6 นัด
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ได้สั่งการด่วนให้ตำรวจ สภ.บางละมุง และสภ.หนองปรือ กว่า 50 นาย ตรึงเข้าปิดล้อมบ้านพักดาบตำรวจนายนี้ เมื่อไปถึงเจอ ด.ต.สุนทร นั่งดื่มสุราส่งเสียงดังเอะอะโวยวายที่โต๊ะหินอ่อนในตัวบ้านพัก ก่อนจะเดินออกมาชี้หน้าต่อว่าตำรวจที่กำลังปิดล้อม สภาพเสื้อสวมกีฬา นุ่งกางเกงในตัวเดียว โดยตำรวจพยายามเกลี่ยกล่อมให้มอบตัว
ทั้งนี้ ด.ต.สุนทร ไม่สนใจและไม่มีท่าทีจะออกมามอบตัวง่ายๆ ผู้บังคับบัญชาจึงวางแผนส่ง ด.ต.วีระยุทธ วรรณพาด ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.นาจอมเทียน ที่รู้จักมักคุ้นกับ ด.ต.สุนทร เข้ามาเกลี่ยกล่อมในระยะประชิดตัว ตามยุทธวิธีจากเบาไปหาหนัก ก่อนควบคุมตัว ด.ต.สุนทร เอาไว้ได้ ซึ่งเจ้าตัวก็ยังอยู่ในอาการเมาสุรา เอะอะโวยวายพูดจาแบบเหมือนคนไม่ได้สติ และยังแอบอ้างตัวเองเป็นเด็กนักการเมืองชื่อดังอีกด้วย ก่อนควบคุมตัวไปดำเนินคดี ในข้อกล่าวหา พกพาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่รับอนุญาต และยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ส่งพนักงานสอบดำเนินคดีตามกฎหมาย
ขณะที่ ชาวบ้านในละแวกดังกล่าว ออกมาเปิดเผยว่า สำหรับ ด.ต.สุนทร มีพฤติกรรมแบบนี้ประจำ ชอบเมาส่งเสียงดังเอะอะโวยวาย และชอบถืออาวุธปืนออกมาข่มขู่ ทำให้เพื่อนบ้านรอบข้างรู้สึกหวาดกลัว และหวาดผวาเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม จึงอยากให้ตำรวจชุดจับดำเนินคดีกับ ด.ต.สุนทร ให้ถึงที่สุด และไม่ควรริบอาวุธปืนไปด้วย เนื่องจากคนในซอยกลัวเพราะว่าตอนเย็นๆจะมีเด็กๆออกมาวิ่งเล่น กลัววันดีคืนดีเมาแล้วยิงพลาดโดนเด็กๆ
สำหรับ ประวัติ ด.ต.สุนทร ผู้ก่อเหตุ เมื่อหลายปีก่อน เจ้าตัวเข้าไปเที่ยวผับในถนนวอล์กกิ้งสตรีท จนเมามายแล้วควบคุมตัวเองไม่ได้ ชักอาวุธปืนออกมาจากเอว จ่อหัวนักท่องเที่ยวกำลังดื่มกินอยู่ในผับ โชคดีที่ครั้งนั้น อาวุธปืนไม่ได้บรรจุกระสุน สุดท้ายก็ถูกจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายมาแล้ว และก่อนหน้าจะมาก่อเหตุครั้งล่าสุด ได้ประพฤติตัวไม่เหมาะสม ถูกผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดสั่งขัง 3 วัน จนกระทั่งมาก่อเหตุดังกล่าวขึ้น
ด้าน พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (รรท.ผบช.ภ.2) เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวได้สั่งการให้ดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ตรงไปตรงมา เป็นตำรวจมีอาวุธปืนแล้วก่อเหตุในลักษณะเช่นนี้ ถือว่าเป็นอันตรายต่อสังคม ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง หากพบตำรวจกระทำความผิดต้องดำเนินคดีตามกฎหมายทันที ไม่ละเว้น ดำเนินคดีอาญาพร้อมกับดำเนินการทางวินัยควบคู่กันไป ตำรวจทำผิดกฎหมายเสียเองต้องให้ออกจากราชการ
ข่าว/ภาพ : ธีรวัฒน์ ทองมา ผู้สื่อข่าวจังหวัดชลบุรี
