ผบ.ตร.ประสานปปง.อายัดทรัพย์บอสดิไอคอนหวั่นถ่ายโอนทรัพย์สิน

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการ ผบ.ตร. พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร.พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) และ ตำรวจระดับสูงพร้อมคณะพนักงานสอบสวน เข้าร่วมประชุมเพื่อติดตรมความคืบหน้าคดีบริษัทดิไอคอน กรุ๊ป ที่มีดาราเป็นผู้บริหาร หลังมีชาวบ้านจำนวนมากเข้าแจ้งความที่ตำรวจสอบส่วนกลางเมื่อเช้าที่ผ่านมา ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ เปิดเผยภายหลังจากการประชุมนานกว่า 1 ชม. ว่า คดีของบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป สั่งให้ บช.ก.จัดตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนไว้ ในวันนี้ตนเดินทางมาเพื่อดูว่ามีผู้เสียหายจำนวนมากน้อยแค่ไหน และระดมกำลังพนักงานสอบสวนจาก บช.ก. ทั้งหมดให้เข้ามาสอบสวนในเรื่องนี้ด้วย เบื้องต้นมีการสอบปากคำผู้เสียหายไปแล้ว 80 ปาก ทราบว่าส่วนใหญ่ถูกชักชวนให้ร่วมทำธุรกิจ และเป็นตัวแทนของบริษัทมีการให้เข้าอบรมซึ่งมีค่าใช้จ่ายเล็กน้อย

จากนั้น เข้าสู่กระบวนการเปิดเครดิต และอัพเกรดเป็นขั้นบันไดเริ่มจาก 2,500- 25,000 จนถึง 250,000 บาท ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ว่าจะเข้าข่ายความผิดที่เกี่ยวกับเรื่องของธุรกิจการขายตรง แชร์ลูกโซ่ หรือการหลอกร่วมลงทุน เบื้องต้นมีการรวบรวมมูลค่าความเสียหายจากการสอบสวนผู้เสียหายทั้ง 80 คนอยู่ที่ 31 ล้านบาท

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวถึงกรณีดาราที่ปรากฏตามสื่อว่าเป็นผู้บริหาร หรือเป็นพรีเซ็นเตอร์นั้น ว่า หากพบว่ามีการสนับสนุนความผิดและเป็นตัวการความผิด จะดำเนินการตามกฏหมายไม่มีละเว้นใครทั้งสิ้น ดังนั้นหากดาราหรือศิลปินที่มาไลฟ์สด หรือช่วยโฆษณาสินค้า ก็จะต้องดูข้อเท็จจริงก่อนว่าเข้าข่ายความผิดใดบ้าง และอยู่ในระดับที่ตำรวจจะพิจารณาความผิดนั้นได้มากน้อยแค่ไหน

“สิ่งแรกที่ต้องทำตอนนี้คือการสอบสวนผู้เสียหาย และรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานก่อน โดยจะใช้เวลาให้เร็วที่สุดประมาณ 2-3 วัน ก็จะสามารถพิสูจน์ให้ได้ข้อเท็จจริง หลังจากนั้นก็นำเข้าสู่กระบวนการพิจารณาข้อเท็จจริงตามข้อกฎหมาย คาดว่าไม่น่าเกินสัปดาห์หน้า ก็น่าจะพบว่ามีความผิดในฐานใดบ้าง” รักษาการ ผบ.ตร. กล่าว

อย่างไรก็ตาม หลังจากพบความความผิดก็จะนำเข้าสู่ขั้นตอนการออกหมายเรียก หากไม่มาก็ออกหมายจับ โดยขณะนี้ตนให้ความสำคัญกับเรื่องจำนวนเงิน และทรัพย์สินอื่นเป็นหลักด้วย ซึ่งทางตำรวจยังไม่มีอำนาจไปยึดทรัพย์ ดังนั้นก็ต้องประสานไปที่ ปปง.ใช้อำนาจอายัดทรัพย์ทั้งหมดไว้ก่อน โดยมุ่งเป้าไปที่ตัวเจ้าของบริษัท อย่างไรก็ตามทางฝั่งผู้ถูกกล่าวหาก็สามารถชี้แจงได้ว่าทรัพย์สินทั้งหมดไม่ได้มาจากการกระทำความผิด แต่หากพบว่าการกระทำความผิดและนำเข้าสู่การฟ้องร้อง ก็จะมีการเฉลี่ยทรัพย์คืนผู้เสียหายได้ ส่วนดาราที่ได้รับเงินเดือนจากบริษัทดังกล่าวจะถูกอายัดทรัพย์สินด้วยหรือไม่ ก็ต้องดูว่ามีส่วนร่วมกระทำความผิดหรือเป็นตัวการในการกระทำความผิดร่วมกันหรือไม่ ถ้าข้อเท็จจริงปรากฏก็ยืนยันว่าร่วมด้วยก็จะโดนอายัดทรัพย์ทุกรายไม่มีละเว้น

เมื่อถามว่า เมื่อวันที่ 25 พ.ค. มีกลุ่มทนายความเคยมายื่นคำร้องให้ทางบก.ปคบ. ตรวจสอบว่าบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป เข้าข่ายกระทำความผิด แต่เรื่องกลับเงียบหายไป พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า เรื่องนี้จะให้ พล.ต.ท.อัคราเดช ทำการตรวจสอบเพิ่มเติมว่าดำเนินการไปแล้วมีผลอย่างไรบ้าง หากไม่พบก็ไม่เป็นไร แต่หากละเว้นก็จะต้องมีโทษอย่างแน่นอนด้วย

เมื่อถามว่า กรณีกระแสข่าวว่ามีผู้เสียหายที่เสียชีวิตเพราะคดีดังกล่าว จะต้องสอบปากคำญาติของผู้ตายเพื่อให้คดีมีน้ำหนักขึ้นหรือไม่นั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่ามีผู้เสียชีวิต ต้องขอตรวจสอบให้ได้ข้อเท็จจริงก่อน ทั้งนี้ขอประชาสัมพันธ์ถึวผู้เสียหายว่าสามารถแจ้งความได้ในระบบหรือสายตรง 1599 หรือแจ้งผ่านศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ AOC หรือสามารถเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจใดก็ได้ หรือจะมาที่ บช.ก.เลยก็ได้

Message us