
เมื่อวันที่ 11 มีนาคม นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิดมอบหนังสือ “ประวัติศาสตร์เมืองตราด History of Trat” พร้อมบรรยายพิเศษในหัวข้อ “ประวัติศาสตร์เมืองตราด History of Trat …Soft Power สู่บ้านเกิด” โดยมี ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด นางชุลีพร เตรัตน์ ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดตราด พร้อมประชาชนชาวจังหวัดตราดกว่า 500 คนร่วมในพิธี ณ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดตราด อ.เมืองตราด จ.ตราด

ทั้งนี้ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ได้มอบหนังสือ จำนวน 4,192 เล่ม แก่คณะผู้บริหารสถานศึกษาในจังหวัดตราด เพื่อนำไปไว้ที่สถานศึกษาเเละศูนย์เรียนรู้ จำนวน 141 เเห่ง และอีก 808 เล่ม จะนำไปส่งมอบให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดได้นำไปเพยแพร่องค์ความรู้และเป็นสื่อการสอนวิชาประวัติศาสตร์ให้พี่น้องประชาชนที่สนใจได้ศึกษาจังหวัดตราด เสริมสร้างความภาคภูมิใจ เเละบ่มเพาะความกตัญญูกตเวทีต่อบรรพบุรุษไทยต่อไป ซึ่งผู้สนใจสามารถอ่านหนังสือประวัติศาสตร์จังหวัดตราด History of Trat ฉบับ E-Books ได้ที่ https://upload.matichon.net/E-book/

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงมีพระราชดำรัสพระราชทานเเก่คณะบุคคลต่าง ๆ ที่เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2551 ณ ศาลาดุสิดาลัย มีพระราชดำรัสสำคัญตอนหนึ่ง ว่า “…เพราะเราจะพูดถึงความยิ่งใหญ่ของประเทศไทย ที่ประเทศไทยบรรพบุรุษของเราสละชีวิตมาเพื่อปกป้องผืนแผ่นดิน มาด้วยเลือดเนื้อ ด้วยชีวิต แต่เสียดายตอนนี้ท่านนายกฯ เขาไม่ให้เรียนประวัติศาสตร์แล้วนะ ฉันก็ไม่เข้าใจ เพราะตอนที่ฉันเรียนอยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์ ไม่มีประวัติศาสตร์อะไรเท่าไหร่ แต่เราก็ต้องเรียนประวัติศาสตร์ของสวิส แต่เมืองไทยนี่บรรพบุรุษเลือดทาแผ่นดิน กว่าจะมาถึงที่ให้พวกเราอยู่นั่งอยู่กันสบาย มีประเทศชาติ เรากลับไม่ให้เรียนประวัติศาสตร์ ไม่รู้ว่าใครมาจากไหน เป็นความคิดที่แปลกประหลาด อย่างที่อเมริกาถามไปเขาก็สอนประวัติศาสตร์บ้านเมืองเขา ที่ไหนประเทศไหน เขาก็สอน แต่ประเทศไทยไม่มี ไม่ทราบว่าแผ่นดินนี้รอดไปอยู่จนบัดนี้เพราะใคร หรือว่ายังไงกัน อันนี้น่าตกใจชาวต่างประเทศยังไม่ค่อยทราบว่า นักเรียนไทยไม่มีการสอนประวัติศาสตร์ชาติเลย…”

ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ตนมีความปรารถนาอยากให้พระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เเละพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นจริง ด้วยการทำให้ลูกหลานเรียนรู้ และสามารถบอกเล่าถึงประวัติบรรพบุรุษของคนในครอบครัว ทั้งพ่อ เเม่ พี่ ป้า น้า อา หรือทำผังครอบครัวของวงศ์ตระกูล ซึ่งเจตนาของพวกเราทุกคนที่ทำไว้ให้คนตราดครั้งนี้จะเกิดมรรคผลดีได้ ด้วยการต่อยอด ทำให้ลูก ๆ หลาน ๆ เห็นความสำคัญและร่วมบันทึกหน้าประวัติศาสตร์ของคนในครอบครัว ด้วยการจดบันทึกทุกเหตุการณ์สำคัญของชีวิตในรูปแบบจดบันทึกหรือวิธีอิเล็กทรอนิกส์ และถ่ายภาพงานสำคัญของครอบครัว เช่น งานเเต่ง งานบวช งานศพ ที่ภาพเหล่านั้นจะกลายเป็นประวัติศาสตร์บอกเล่าเหตุการณ์อดีตในอนาคต และช่วยกันทำให้ประวัติศาสตร์ของพื้นที่ ประวัติศาสตร์ชาติไทย เป็น Soft Power ช่วยกันสานฝันให้พี่น้องคนไทยได้หันมาสนใจประวัติศาสตร์ชาติไทย เพื่อสร้างความมั่นคงของประเทศชาติเราให้อยู่ยั้งยืนยงไปชั่วลูกชั่วหลานอย่างยั่งยืนตลอดไป
