เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม นายสันติธร ยิ้มละมัย ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน พร้อมด้วย นางดวงกมล ยิ้มละมัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดลำพูน และประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดลำพูน นายอนุพงษ์ วาวงศ์มูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน นายชาตรี กิตติธนดิตถ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน นายบุญส่ง ไชยมณี หัวหน้าสำนักงานจังหวัดลำพูน นายโยธิน ประสงค์ความดี ปลัดจังหวัดลำพูน นางบำเพ็ญ เมืองมูล พัฒนาการจังหวัดลำพูน นายสมาน กองแก้ว นายอำเภอเมืองลำพูน หัวหน้าส่วนราชการ ภาคีเครือข่าย นำประชาชนจิตอาสาร่วมกิจกรรมพัฒนาลำน้ำปิงห่างเนื่องในวันฉัตรมงคล ประจำปี 2566 เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สร้างความสมัครสมานสามัคคีในการทำประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง ที่ ศูนย์อุโมงค์ลดโลกร้อน ตำบลอุโมงค์ อำเภอเมืองลำพูน
นายสันติธร กล่าวว่า กิจกรรมจิตอาสาในครั้งนี้ เป็นการพัฒนาลำน้ำปิงห่าง โดยจังหวัดลำพูนได้กำหนดลำน้ำปิงห่างในเขตพื้นที่ตำบลอุโมงค์ อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน เป็นแหล่งน้ำที่จะดำเนินการฟื้นฟู เพื่อเป็นต้นแบบของการพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 70 พรรษา 28 กรกฎาคม 2566 ภายใต้กิจกรรมพัฒนาฟื้นฟูและแก้ไขปัญหาแหล่งน้ำ ตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการฟื้นฟูแหล่งน้ำธรรมชาติ แม่น้ำ คูคลอง หนอง บึง ให้สะอาดสวยงาม รวมทั้งการบริหารจัดการน้ำและแก้ไขปัญหาแหล่งน้ำอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ลำน้ำปิงห่างมีสภาพที่ดีขึ้นและเป็นสายน้ำแห่งชีวิตที่ผูกพันกับคนทั้งสายน้ำต่อไป
ทั้งนี้ การจัดกิจกรรมในครั้งนี้มีจิตอาสาได้ร่วมกันกำจัดวัชพืช ผักตบชวา และสิ่งกีดขวางในลำน้ำปิงห่าง ตลอดจนเก็บขยะ ตัดแต่งต้นไม้และกิ่งไม้ริมสองฝั่งริมน้ำ เพื่อให้น้ำไหลผ่านได้สะดวกและไม่เกิดน้ำเน่าเสีย สอดคล้องกับโครงการฟื้นฟูและแก้ไขปัญหาแหล่งน้ำลำน้ำปิงห่าง ของจังหวัดลำพูน จากนั้น ได้ลงพื้นที่ไปบ้านป่าเส้า เพื่อร่วมกันปลูกต้นลำไยพันธุ์เบี้ยวเขียวป่าเส้า โอกาสนี้ นางพจนี ศิลารัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ ได้สนับสนุนงบประมาณสำหรับการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย
“พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชหฤทัยอันมุ่งมั่นที่จะสร้างความผาสุกร่มเย็นแก่อาณาประชาราษฎร์ และสร้างความสิริสวัสดิ์พิพัฒน์ไพบูลย์แก่ประเทศชาติ รวมทั้งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดตั้งโครงการจิตอาสาพระราชทานขึ้นเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนทุกหมู่เหล่ามีความรักสามัคคีมีน้ำหนึ่งใจเดียวกันและตั้งมั่นบำเพ็ญประโยชน์เพื่อส่วนรวม ซึ่งจังหวัดลำพูนจะได้น้อมนำพระราชปณิธานนี้ มาขับเคลื่อนขยายผลเพื่อเสริมสร้างพลังความรักความสามัคคีของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ด้วยการใช้พลังของการเป็นจิตอาสา ทำให้เกิดความงดงาม ความผาสุก ในพื้นที่จังหวัดลำพูน อันจะทำให้พี่น้องประชาชนมีความสุขและมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน” ผวจ.ลำพูน กล่าว
