
เมื่อวันที่ 14 พ.ย. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 11 จังหวัด ได้แก่ สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส มหาสารคาม ศรีสะเกษ อุบลราชธานี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี และนครปฐม รวม 28 อำเภอ 196 ตำบล 1,232 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 80,114 ครัวเรือน ทั้งนี้ ปภ. ได้ประสานจังหวัดดูแลช่วยเหลือผู้ประสบภัย และเร่งระบายน้ำ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ภัย สำหรับพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายแล้ว ให้เร่งฟื้นฟูพื้นที่เพื่อให้ประชาชนกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติ
ทั้งนี้ ร่องมรสุมพาดผ่านตอนล่างของภาคใต้เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมชายฝั่งประเทศมาเลเซีย ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือยังคงพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน รวมถึงลมตะวันออกพัดปกคลุมภาคใต้ตอนล่าง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 4 จังหวัด รวม 17 อำเภอ 69 ตำบล 261 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 5,746 ครัวเรือน ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 4 จังหวัด รวม 5 อำเภอ 22 ตำบล 88 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,201ครัวเรือน ดังนี้
- สงขลา น้ำท่วมในอำเภอสะบ้าย้อย รวม 9 ตำบล 40 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 796 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
- ปัตตานี น้ำท่วมใน 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองปัตตานี และอำเภอหนองจิก รวม 5 ตำบล 10 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 701 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
- ยะลา น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอเมืองยะลา รวม 6 ตำบล 33 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 513 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
- นราธิวาส น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอสุไหงโก-ลก รวม 2 ตำบล 5 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 218 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
สำหรับ การให้ความช่วยเหลือกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ประสบภัยได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งระบายน้ำท่วมและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง สำหรับพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายแล้วได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว โดยทำความสะอาดบ้านเรือนประชาชน สิ่งสาธารณประโยชน์ สถานที่ราชการ และซ่อมแซมระบบสาธารณูปโภค รวมถึงเส้นทางคมนาคมให้ใช้งานได้ตามปกติ เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด พร้อมทั้งได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ต่อไป
ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับ แจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ประชาชนยังสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยได้ที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT