บุกสภ.บางศรีเมืองตามจี้คดี “ต้าวแว่น มาสด้าแดง”สร้างวีกรรมบนท้องถนนสร้างความเดือดร้อน

จากกรณีคดีรถมาสด้าสีแดง ซึ่งชาวเน็ตตั้งฉายาผู้ขับขี่ว่า “ต้าวแว่น มาสด้าแดง” ที่มีพฤติกรรมขับขี่อันตรายในพื้นที่บางศรีเมือง จ.นนทบุรี แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าทางคดี แม้เวลาจะผ่านไปกว่า 1 สัปดาห์แล้ว ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากแสดงความไม่พอใจต่อการดำเนินคดีที่ล่าช้าของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

เหตุการณ์ดังกล่าวได้รับความสนใจจากสังคม เนื่องจากเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยบนท้องถนน และมีผู้ได้รับผลกระทบจำนวนมาก โดยมีหลักฐานเกี่ยวกับพฤติกรรมขับขี่ที่ประมาทและหวาดเสียวถูกเผยแพร่อย่างแพร่หลายในสื่อออนไลน์ แต่ถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าทางคดี แม้ว่าความผิดจะชัดเจนและมีหลักฐานปรากฏอยู่มากมาย

ล่าสุด กลุ่ม “ปลดแอกชาวสองล้อ” ได้ประกาศนัดรวมตัวผ่านเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า จะเดินทางไปยัง สภ.บางศรีเมือง ในวันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคม 2568 เวลา 14.00 น. เพื่อเร่งรัดให้มีการดำเนินคดีโดยเร็ว พร้อมสอบถามแนวทางป้องกันพฤติกรรมขับขี่อันตรายในพื้นที่ โดยกลุ่มดังกล่าวยังเรียกร้องให้ผู้ก่อเหตุออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระบุข้อความว่า

“ทางกลุ่มขอเชิญชวนประชาชนที่ได้รับผลกระทบ หรือผู้ที่ต้องการแสดงออกทางกฎหมายเข้าร่วมการรวมตัวครั้งนี้ และเรียกร้องให้ สภ.บางศรีเมือง ประสานให้ผู้ก่อเหตุเข้าพบตัวแทนกลุ่ม เพื่อให้เกิดการพูดคุยกันโดยตรง หากกฎหมายไม่สามารถจัดการคนผิดได้ ประชาชนอาจต้องลุกขึ้นมาทวงถามความยุติธรรมด้วยตัวเอง”

ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 มี.ค. กลุ่มปลดแอกชาวสองล้อ พร้อมด้วยกลุ่ม “G เคลื่อนที่เร็วเราช่วยกัน” และ “สายลุยคุยกับด่าน” ได้รวมตัวกันกว่า 100 คน โดยขับขี่รถจักรยานยนต์ติดป้ายข้อความ “ความยุติธรรมที่ล่าช้า ก็คือความไม่ยุติธรรม” ก่อนเดินทางไปยัง สภ.บางศรีเมือง มีการรวมตัวถ่ายภาพบริเวณด้านหน้าโรงพัก ก่อนนำหนังสือยื่นต่อ พ.ต.อ.สมชาย แจ้งธรรมมา ผกก.บางศรีเมือง เพื่อทวงถามความคืบหน้าคดี

นายสมศักดิ์ มะหะหมัด อายุ 57 ปี หนึ่งในสมาชิกกลุ่ม ปลดแอกชาวสองล้อ ที่เคยพบเจอ “มาสด้าแดง” บนท้องถนน กล่าวว่า วันนี้ทางแอดมินกลุ่มได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้าคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางศรีเมือง เนื่องจาก ‘ต้าวแว่น มาสด้าแดง’ มีพฤติกรรมอคติต่อชาวสองล้อ บีบแตรเสียงดังบนถนน รวมถึงพุ่งชนรถจักรยานยนต์ ส่งผลให้ชาวสองล้อได้รับความเดือดร้อนและไม่พอใจ ย้อนกลับไปก่อนที่ข่าวจะเป็นกระแส ตนเคยเจอพฤติกรรมของผู้ขับขี่รถมาสด้าแดงมากับตัว ถูกบีบแตรไล่ขณะขับขี่บนถนนราชพฤกษ์ จ.นนทบุรี ซึ่งพฤติกรรมเช่นนี้อาจทำให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ตกใจจนเกิดอุบัติเหตุได้

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่กระแสข่าวเริ่มเงียบไป ทางแอดมินกลุ่มจึงนัดรวมตัวกันอีกครั้งเพื่อติดตามว่าคดีมีความคืบหน้าหรือไม่ และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการใด ๆ กับผู้ก่อเหตุแล้วหรือยัง ขณะนี้ยังต้องรอติดตามว่าทางผกก.สภ.บางศรีเมือง จะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไป และจะสามารถสร้างความกระจ่างให้กับประชาชนที่รอความเป็นธรรมได้ ตอนนี้ทางตัวแทนกลุ่มอยู่ระหว่างเข้าไปพูดคุย

ด้าน นายอริยะพงษ์ เจริญสุข อายุ 49 ปี แอดมินเพจ “จอห์น ไรเดอร์” ได้เป็นตัวแทนเข้ายื่นหนังสือ และพูดคุยกับพ.ต.อ.สมชาย แจ้งธรรมมา ผกก.สภ.บางศรีเมือง โดยใช้เวลาพูดคุยประมาณ 1 ชม. ในการจี้ถามความคืบหน้าคดี

นายอริยะพงษ์ ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ตนเดินทางมาสภ.บางศรีเมืองเพื่อให้ ติดตามคดีและให้ดำเนินคดีโดยเร็วกับเก๋งมาสด้าแดง หลังพบว่า ก่อเหตุยังสามารถขับขี่ได้ตามปกติ ทางตัวแทนได้เข้าพูดคุยกับผกก.บางศรีเมือง ได้ให้ข้อมูบว่าเมื่อช่วงเช้าวันที่ 8 มี.ค. ผู้ก่อเหตุได้เข้าพบพนักงานสอบสวนแล้ว ก่อนหน้านี้เคยถูกเรียกตัวเข้าพบมาแล้วเมื่อ 5 วันก่อน ทางคดีตำรวจขณะนี้ยังไม่สาม ารถแจ้งข้อกล่าวหาได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานกล้องหน้ารถ กล้องวงจรปิดที่เกิดเหตุ อยู่ระหว่างการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ แต่ทางผู้เสียหายได้เข้ามาแจ้งเรื่อง “ทำให้เสียทรัพย์” ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการ ส่วนในประเด็นเรื่องการยึดใบขับขี่ ตำรวจระบุว่า ไม่มีอำนาจดำเนินการ เนื่องจากเป็นหน้าที่ของกรมการขนส่งทางบก

ทั้งนี้ ตนมองว่าการดำเนินคดีในกรณีนี้มีความล่าช้า สะท้อนถึงความไม่เป็นธรรมในการบังคับใช้กฎหมาย ยกตัวอย่างกรณีที่เกิดขึ้นเมื่อ 2 วันก่อน มีวัยรุ่นขี่จักรยานยนต์ยกล้อ ถูกตำรวจยึดรถและดำเนินคดีทันที แต่กลับพบว่า “มาสด้าแดง” ยังคงสามารถขับขี่ได้ บุคคลที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ไม่ควรได้รับอนุญาตให้ขับรถ หากมีปัญหาทางจิต ก็ควรเข้ารับการรักษาก่อนกลับมาขับขี่ได้พร้อมเรียกร้องให้กรมการขนส่งทางบกออกมาชี้แจงมาตรการจัดการกับผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมอันตรายบนท้องถนน

นอกจากนั้น ทางตำรวจแจ้งอีกว่า หากประชาชนพบเห็นรถคันดังกล่าวก่อเหตุ สามารถนำหลักฐานแจ้งที่ สภ.บางศรีเมือง ได้ทันที ตนได้พยายามติดต่อพูดคุยกับผู้ก่อเหตุเพื่อให้แสดงความรับผิดชอบต่อสังคม แต่กลับถูกปฏิเสธ และเลือกที่จะเข้าพบตำรวจอย่างเงียบ ๆ โดยไม่มีการแสดงออกถึงการสำนึกผิด ส่วนที่เดินทางมาวันนี้ได้มาเรียกร้องใน 3 ประเด็นหลักกับตำรวจ คือ 1.เร่งรัดให้คดีดำเนินไปจนถึงที่สุด 2.ยึดใบขับขี่ของผู้ก่อเหตุ 3.ออกมาตรการป้องกันอุบัติเหตุบนท้องถนน ซึ่งตอนนี้ก็ได้รับคำตอบจากตำรวจหมดแล้ว

อย่างไรก็ตาม ขอฝากข้อความถึงผู้ก่อเหตุให้แสดงความรับผิดชอบที่ตนเขียนผ่านหนังสือมา 4 ข้อดังนี้ 1.ออกมาแสดงตนในความรับผิดชอบต่อสังคมด้วยความจริงใจ 2.หยุดการขับขี่รถทุกประเภท จนกว่าจะมีคำสั่งตัดสินของศาล 3. ยุตติการเผยแพร่วิดีโอที่ก่อให้เกิดอันตราย และสร้างความแตกแยกในสังคมทุกช่องทาง 4. มาตักเตือนคนที่จะคิดเลีบนแบบพฤติกรรมที่ก่อความเดือดร้อนอันตรายกับผู้อื่นบนถนน

ภาพ/ข่าว : ฉัตรมงคล สิงห์โต ผู้สื่อข่าวจังหวัดนนทบุรี

Message us