“บิ๊กต่อ”ท้าทีมทนาย”บิ๊กโจ๊ก”เปิดข้อมูลให้หมดใครรับเงินเว็บพนัน

เมื่อวันที่ 18 มีนาคม พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้สัมภาษณ์กรณีทีมทนายความของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. แถลงเส้นทางการเงินเชื่อมโยงถึงตำรวจระดับสูง และเครือญาติในสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า เนื่องจากเส้นทางการเงินเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ตรวจสอบได้ แต่กรณีทีมทนายความ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และ พล.ต.ต.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ ผู้บังคับการศูนย์ฝึกอบรมกองบัญชาการตำรวจนครบาล อ้างชื่อตัวย่อบุคคลต่างๆนั้น ตนเองอยากให้เปิดเผยมาเลย ซึ่งจะให้พนักงานสอบสวนเชิญมาให้ข้อมูล เพื่อให้ตรวจสอบคำกล่าวอ้างว่า มีจริงหรือไม่

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า กรณีที่ทีมทนายความ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และพล.ต.ต.นำเกียรติ อ้างว่า มีบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับเส้นทางการเงินเว็บพนัน แต่พนักงานสอบสวนกลับไม่แจ้งความดำเนินคดี แต่พุ่งเป้าไปที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และพวกนั้นก็จะต้องมีการตรวจสอบว่า มีการดำเนินการแบบนั้นจริงหรือไม่ รวมทั้งที่มีการกล่าวอ้างว่า เว็บพนันรู้จักกับนายตำรวจหญิง 2 นาย มีความสัมพันธ์กับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ หากมีข้อมูลจริงก็ขอให้ออกมายืนยัน รวมทั้งที่มีการกล่าวอ้างว่า มีการจ่ายเงินให้กับนายพลอักษรย่อ ต. และเครือญาติ ก็จะต้องมีการตรวจสอบเช่นกัน หากมีข้อมูลขอให้เปิดออกมาเลย เพราะหากมีความผิดจริงก็จะดำเนินการไม่ละเว้นเพราะการพูดแบบนี้ถือว่า เป็นการด้อยค่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

เมื่อถามว่า พล.ต.ต.นำเกียรติอ้างว่า มูลเหตุที่ขัดแย้งกัน เกิดจากทำคดีกำนันนก และเป้รักผู้การ 140 ล้านบาท พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวข้องกัน ตัวเองมั่นใจในฐานะผู้บังคับบัญชา ไม่สามารถไปกลั่นแกล้งใครได้ เนื่องจากเปรียบเหมือนกระโถนที่รับของเสีย ต้องเลอะบ้าง และต้องรับแรงกระแทกจากทุกฝ่าย เมื่อถามว่า หวั่นไหวบ้างหรือไม่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า ตัวเองไม่เคยทุกข์เลยเดี๋ยวก็ผ่านไปตอนนี้เหลือ 195 วันจะเกษียณ และตอนนี้ตัวเองกำลังหว่านข้าว หว่านข้าวโพด หวังได้กินข้าว และข้าวโพดในทุกวัน

ผบ.ตร. กล่าวว่า ได้มีคำสั่งมอบหมายให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะพนักงานสอบสวนชุดเก่า เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนในคดีเว็บพนัน BNK Master พื้นที่ สน.เตาปูน โดยไม่จำเป็นต้องให้เป็น พล.ต.อ. หรือเป็น พล.ต.ท. ซึ่งการสอบสวนในอนาคตหากพบว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องในการกระทำความผิด ก็จะมีการพิจารณาส่งสำนวนไปยัง กรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แต่ในเรื่องดังกล่าว ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI มีหนังสือขอข้อมูลมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ได้ส่งข้อมูลกลับไปแล้ว

Message us