เมื่อวันที่ 13 ก.พ. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย มอบหมายให้ นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประจำปี 2568 มีผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยร่วมประชุม อาทิ นายสมเจตน์ ลิมปะพันธุ์ ที่ปรึกษา รมว.มหาดไทย นายขจร ศรีชวโนทัย รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย พร้อมหัวหน้าหน่วยงาน ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ในสังกัดกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ณ ห้องประชุมคอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ โรงแรมรามา การ์เด้นส์
นายทรงศักดิ์ กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายจากนายอนุทิน ให้กำกับดูแลการปฏิบัติราชการกรมที่ดิน และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ที่ต่างมีภารกิจสำคัญในการดูแลคุณภาพชีวิตของประชาชน ซึ่งการทำงานของ ปภ. นั้น ต้องยึดนโยบายรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย “ประชาชนเป็นศูนย์กลาง” และกรอบแนวทางหลัก คือ พ.ร.บ. ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 และแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2564 – 2570 รวมถึงกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
“ปภ. เป็นหน่วยงานสำคัญที่ต้องมีความพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อดูแลความปลอดภัยพี่น้องประชาชน ด้วยการต้องพัฒนาศักยภาพการทำงานที่เน้น “มิติป้องกันภัย” เพื่อภัยพิบัติลดน้อยลงและความเสียหายก็ย่อมบรรเทาเบาบางลงไปด้วย อะไรที่จะเกิดภัยในอนาคต ก็ต้องทำให้ไม่เกิดขึ้น เช่น ในเรื่องของน้ำ เราต้องหาพื้นที่รับน้ำเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำท่วม และมีน้ำใช้ในยามหน้าแล้ง ด้วยการวางมาตรการป้องกันภัยต่าง ๆ ให้เป็นระบบ มีแนวทางในการรับมือ และบรรเทาเยียวยา อย่างรวดเร็วและครบถ้วน นอกจากนี้ ปภ. ต้องมีการเรียนรู้และนำนวัตกรรม/เครื่องมือที่ทันสมัยเข้ามาช่วยเหลือและป้องกันภัยพิบัติ ผ่านการบูรณาการเครื่องมือและข้อมูลจากทุกภาคส่วน เพื่อรับมือภัยพิบัติที่รุนแรงได้อย่าง “ทันท่วงที” มีระบบแจ้งเตือนให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบโดยเร็ว มีภาคีเครือข่ายความร่วมมือผ่านกลไกกระทรวงมหาดไทยในทุกระดับ ทุกพื้นที่ ทั้งนายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นร่วมปฏิบัติงาน” นายทรงศักดิ์ กล่าว
นายทรงศักดิ์ กล่าวว่า ขอให้บุคลากร ปภ. ยึดหลักการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรอบคอบ ชื่อสัตย์สุจริต บนพื้นฐานของหลักคุณธรรมจริยธรรม และขอเป็นกำลังใจให้กับทุกท่านที่ทุ่มเทแรงกาย แรงใจ เสียสละอุทิศตนในการปฏิบัติงานช่วยเหลือพี่น้องประชาชน เป็นกำลังสำคัญทำให้ประเทศไทยมีความมั่นคงปลอดภัยจากสาธารณภัยอย่างมีประสิทธิภาพตลอดไป
