นายกเล็กเมืองบางแก้วเต้นสั่งสอบจนท.หน่วยกู้ชีพจิ๊กของคนเจ็บจากอุบัตเหตุ

จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนึงได้ไลฟ์สดภาพเหตุการณ์ อุบัติเหตุที่ หน้าปั้มเชลล์ ถนนบางนาตราด ขาออก กม.6  ทราบภายหลังว่าเจ้าของเฟซบุ๊กเป็นเจ้าหน้าที่กู้ชีพของเทศบาลแห่งหนึ่งในสมุทรปราการ โดยในคลิปปรากฏภาพไม่เหมาะสม เห็นภาพขณะเจ้าหน้าที่กู้ชีพนำรถกู้ชีพจอดขวางจุดที่พลเมืองดีช่วยกันนำสินค้าของคนเจ็บที่กำลังนำไปส่งลูกค้าเข้าข้างทาง เพื่อไม่ให้คนเจ็บเห็นพฤติกรรมของพวกตน โดยในคลิปยังมีเสียงถามเพื่อนร่วมงานว่า “กินเปล่าเนี่ย” ก่อนจะหยิบปูอัดของคนเจ็บขึ้นไปวางที่เบาะรถ 2 แพ็ค จากนั้นมีเสียงเจ้าหน้าที่กู้ชีพที่เป็นผู้หญิงบอกว่า “หยิบไปอีกแพ็คสิ” คนที่อัดคลิปจึงบอกว่าพอแล้ว

พลเมืองดียังบอกกับผู้สื่อข่าวว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม 2566 ตนเห็นว่าไม่เหมาะสมจึงบันทึกคลิปไว้นำไปแจ้งต้นสังกัดของหน่วยกู้ชีพรายนี้ แต่เวลาผ่านไปทางต้านสังกัดไม่ได้ดำเนินการใดๆ พอทวงถามกลับบอกว่า เป็นเรื่องเล็กน้อย ตนจึงนำคลิปมามอบให้ผู้สื่อข่าวหวังให้นำเสนอเตือนภัยหน่วยกู้ชีพรายนี้ เพราะเรื่องนี้มองว่า ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยเป็นกู้ชีพมีหน้าที่ช่วยคนเป็นอันดับแรก แต่กลับไปขโมยของคนเจ็บแบบนี้ ถือเป็นการซ้ำเติมคนเจ็บ และทำให้คนดีๆ ในอาชีพนี้แปดเปื้อนไปด้วย คนกลุ่มนี้ไม่ควรมาทำอาชีพที่มีเกียรติแบบนี้

ล่าสุดผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับ นายศราวุฒิ อนุสร พนักงานส่งของผู้เสียหายที่ประสบอุบัติเหตุ เปิดเผยว่า วันนั้นตนขี่รถออกจากออฟฟิศ กำลังไปส่งของที่บางพลี พอมาถึงที่เกิดเหตุตนขี่รถชนกับรถแท็กซี่ แล้วถูกรถเมย์ชนซ้ำ จนได้รับบาดเจ็บ พอสักพักหน่วยกู้ชีพเทศบาลในพื้นที่ก็มาถึงแล้วก็เดินถ่ายคลิปมาถามว่า เจ็บตรงไหน แต่ไม่ได้มาช่วยเหลือตน พอตนเห็นคลิปแล้วรู้สึกแย่กับเจ้าหน้าที่กู้ชีพรายนี้ ตนเกิดอุบัติเหตุแทนที่จะมาช่วยเรา แต่กับมาหยิบของเราไป หลังเกิดเหตุตนก็ไปโรงพยาบาล ส่วนรถมอเตอร์ไซด์และของต่างๆทางโรงงานก็มาเอาไปเก็บตนเลยไม่รู้ว่ามีสินค้าหาย เพิ่งจะมาเห็นจากคลิป จากนี้ตนก็ไม่ขอแจ้งความแต่อยากจะฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์ ว่าเวลาเกิดอุบัติเหตุให้ระวังทรัพย์สินของตนให้ดี ๆ

ด้านนายณัฐพงศ์ แตงสุวรรณ นายกเทศมนตรีเมืองบางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ  ซึ่งติดภารกิจอยู่ที่ต่างจังหวัด ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ได้ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว ได้สั่งการให้ทางข้าราชการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผู้ที่ได้ลงมือกระทำ ซึ่งไม่ใช่ข้าราชการประจำ แต่เป็นการจ้างตามภารกิจ และตามขั้นตอนก็ต้องมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อจะได้ดำเนินการลงโทษต่อไป โดยจะเป็นการลงโทษแบบเด็ดขาด เพราะถือว่าเป็นเยี่ยงอย่างไม่ดีและทำให้เสียชื่อเสียงของเทศบาลเมืองบางแก้วด้วย เนื่องจากเราเป็นหน่วยที่จะต้องเข้าไปช่วยเหลือผู้ที่เขาได้รับความเดือดร้อน หรือผู้ป่วยเวลาฉุกเฉิน ถือว่าเป็นอันตรายหากเข้าไปที่บ้านใครไปหยิบฉวยอะไรเขามาก็จะวุ่นวายสร้างความเดือดร้อนเข้าไปอีก

“ผมจึงเน้นย้ำผู้บังคับบัญชาให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเร็ว มีโทษหนักสุดคือให้ออก แต่ต้องขอดูข้อเท็จจริงก่อน เพื่อให้เจ้าตัวตอบข้อเท็จจริง เราก็ต้องฟังเขาด้วยว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร ถ้าพบว่ามีความผิดจริงก็ต้องดำเนินการอยู่แล้ว และจากประวัติคนนี้ก็พบว่าไม่ค่อยดีนัก มีเรื่องต่างๆเข้ามาหลายเรื่อง มาครั้งนี้ถือว่าชัดเจน และทราบว่ามีการไลค์สด ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง เหมือนกับเป็นการท้าทายทั้งผู้บังคับบัญชาและสังคม ถ้าทายกฎระเบียบของทางราชการ ทำให้เสียชื่อเสียงขององค์กรและผู้เสียหายสามารถติดต่อผมนายกเทศมนตรีเมืองบางแก้วได้โดยตรงเลย เพราะถือว่าเป็นการไปซ้ำเติมผู้ที่เขาได้รับความเดือดร้อน ในความรู้สึกส่วนตัวผมถือว่า ร้ายแรง ซึ่งเทศบาลเมืองบางแก้วจะได้ดำเนินการอย่างเด็ดขาด ภายในอาทิตย์หน้านี้ก็จะได้ข้อสรุปว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป”นายกเทศมนตรีเมืองบางแก้ว กล่าว

ข่าว/ภาพ : สุทธิวิทย์ ชยุตม์วรกานต์ ผู้สื่อข่าวจังหวัดสมุทรปราการ

Message us