นายกฯไทย-จีนหารือต่างยืนยันสานต่อความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของสองประเทศ

เมื่อวันที่ 18 ต.ค. ที่ Peony Hall เรือนรับรองเตี้ยวหยูไถ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง หารือทวิภาคีกับนายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญดังนี้
 
นายกรัฐมนตรีรู้สึกยินดีที่ได้มาเยือนจีนอย่างเป็นทางการตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรีจีน และกล่าวขอบคุณการต้อนรับที่อบอุ่นในวันนี้ พร้อมชื่นชมต่อความสำเร็จของจีนในการจัดการประชุม Belt and Road Forum for International Cooperation (BRF) ครั้งที่ 3 และการเป็นเจ้าภาพจัดเอเชียนเกมส์
 
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีไทย-จีน ได้หารือถึงประเด็นสำคัญต่างๆ ร่วมกัน ดังนี้
 
ความสัมพันธ์ไทย – จีน ทั้งสองฝ่ายต่างยืนยันสานต่อความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างไทย-จีน ซึ่งเป็นมิตรแท้ร่วมกันมายาวนาน พร้อมเห็นพ้องแลกเปลี่ยนระดับสูงอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจในระดับการเมือง และพัฒนาความสัมพันธ์ให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนของทั้งสองประเทศ 

ด้านนายกรัฐมนตรีจีนเน้นย้ำเจตนารมณ์ในการพัฒนาความสัมพันธ์ไทย – จีน เพื่อมุ่งสู่การเป็นประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันไทย – จีน และในโอกาสนี้นายกรัฐมนตรีไทยเชิญนายกรัฐมนตรีจีนเยือนไทยอย่างเป็นทางการในโอกาสที่สะดวก
 
ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ไทยและจีนยืนยันความร่วมมือเพื่อเผชิญกับความท้าทายทุกมิติทั่วโลก ผ่านการส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน ความเชื่อมโยงทั้งโครงสร้างพื้นฐานและห่วงโซ่อุปทาน เพื่อร่วมกันฟื้นฟูเศรษฐกิจและสร้างความยืดหยุ่นในการตอบสนองต่อสถานการณ์โลก 

โดยนายกรัฐมนตรีได้เชิญภาคเอกชนจีนมาลงทุนในไทย โดยเฉพาะในโครงสร้างพื้นฐานโครงการ Landbridge ด้านนายกรัฐมนตรีจีนยินดีส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจไทย-จีน ให้เพิ่มพูนทุกด้าน พร้อมส่งเสริมให้นักลงทุนจีนมาลงทุนในไทย และพร้อมต้อนรับดูแลการลงทุน
 
นายกรัฐมนตรีขอรับการสนับสนุน การนำเข้าสินค้าเกษตรไทย โดยขอให้จัดตั้งด่านตรวจสินค้าเกษตรที่ท่าเรือกวนเหล่ย และเพิ่มโควต้านำเข้าข้าว และการนำเข้าโคมีชีวิตและผลิตภัณฑ์โคโดยตรงจากไทย ทั้งนี้ทางไทยพร้อมจะปฏิบัติตามมาตรฐานการกักกันโรคตามหลักวิชาการสัตวแพทย์เท่าที่ทางจีนกำหนด ทั้งสองฝ่ายยังพร้อมส่งเสริมความเชื่อมโยง โดยเฉพาะโครงการรถไฟไทย – ลาว – จีน ตามแนวคิดระเบียงการพัฒนาความเชื่อมโยง 3 ประเทศ รวมทั้งโลจิสติกส์ เพื่ออำนวยความสะดวกขนส่งสินค้า การเดินทางของประชาชน และการพัฒนาของภูมิภาค

ความร่วมมือด้านท่องเที่ยว นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความเสียใจที่มีนักท่องเที่ยวจีนเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์กราดยิงที่ห้างสรรพสินค้า ยืนยันว่ารัฐบาลจะดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างดีที่สุด ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงตรวจลงตราที่ยกเว้นให้นักท่องเที่ยวจีน และขอให้ฝ่ายจีนพิจารณายกเว้นให้ชาวไทยเช่นกัน ด้านนายกรัฐมนตรีจีนให้ความสำคัญกับการรักษาความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยว
 
ความร่วมมือด้านความมั่นคง ไทยและจีนต่างเห็นพ้องในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือกับหลายประเทศ เพราะอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจที่ผิดกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้านของไทย พร้อมร่วมกันแก้ไขปัญหา Call Center การพนันออนไลน์ การค้ามนุษย์ และยาเสพติด ซึ่งส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อประชาชนไทย จีน และประเทศทั้งในและนอกภูมิภาค
 
ความร่วมมือด้านวัฒนธรรมและระดับประชาชน นายกรัฐมนตรีจีนส่งเสริมการแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรมและระดับประชาชน โดยเฉพาะการศึกษาของเยาวชนและสื่อมวลชนทั้งสองประเทศ
 
ความร่วมมือในกรอบพหุภาคี จีนสนับสนุนบทบาทสร้างสรรค์ของกันและกันในกรอบอนุภูมิภาค ภูมิภาค และระหว่างประเทศ โดยเฉพาะกรอบ ASEAN-จีน และ MLC เพื่อส่งเสริมสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองต่อภูมิภาคและโลก

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นสักขีพยานการลงนามในเอกสารสำคัญร่วมกัน 6 ฉบับ ดังนี้

1) บันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทยกับคณะกรรมาธิการการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อการจัดตั้งกลไกประสานงานสำหรับการร่วมกันส่งเสริมข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง

2) บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านเศรษฐกิจดิจิทัลระหว่างกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมกับคณะกรรมาธิการการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ สาธารณรัฐประชาชนจีน

3) การจัดทำพิธีสารว่าด้วยข้อกำหนดสุขอนามัยพืชสำหรับการส่งออกผลเสาวรสสดจากประเทศไทยไปยังประเทศจีนระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แห่งราชอาณาจักรไทยกับสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน

4) แผนปฏิบัติการว่าด้วยความร่วมมือทางวัฒนธรรมระหว่างกระทรวงวัฒนธรรมแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน สำหรับปี พ.ศ. 2566 – 2570

5) บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านภาพยนตร์ระหว่างกระทรวงวัฒนธรรมแห่งราชอาณาจักรไทยกับทบวงกิจการภาพยนตร์แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน

6) บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านสื่อสารมวลชนและสารสนเทศระหว่างกรมประชาสัมพันธ์กับกลุ่มสื่อแห่งชาติจีน

นอกจากนั้น นายกรัฐมนตรีทั้งสองฝ่ายได้ รับทราบการลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน

Message us