เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ นายจักรพงษ์ ปทุมไกยะ นายอำเภอธาตุพนม จ.นครพนม พร้อมด้วยคณะทำงาน ยังเดินหน้าร่วมกับตัวแทนชาวบ้าน และ ประชาชนทำการตรวจสอบความโปร่งใส ในการบริหารจัดการดูแลผลประโยชน์วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร หลังมีตัวแทนชาวบ้านร้องเรียนปัญหาการยอกยอกเงินวัด รวมถึงมีการแสวงประโยชน์ในการจัดงานนมัสการองค์พระธาตุพนม โดยปีนี้เตรียมพร้อมจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17 -25 กุมภาพันธ์ จึงต้องมีการจัดระเบียบให้มีความชัดเจนโปร่งใส ก่อนจะมีการจัดงาน เพื่อให้เป็นไปตามเจตนาของผู้บริจาค
ทั้งนี้ เนื่องจากก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่ามีขบวนการมาเฟีย ฉวยโอกาสหากินกับวัด สร้างความเสื่อมเสียตามมา จนกระทั่งทาง พระธรรมวชิรโสภณ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนม ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 10 ได้มีการลงนามคำสั่งให้ปลดไวยาวัชกรวัด หยุดปฏิบัติหน้าที่ 3 ราย และ กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการด้วยอีก 1 ราย ลงนามคำสั่งวันที่ 1 กุมภาพันธ์ เพื่อตรวจสอบเกี่ยวกับปัญหายักยอกเงินวัด
ล่าสุด นายจักรพงษ์ ปทุมไกยะ นายอำเภอธาตุพนม พร้อมด้วยคณะทำงาน ได้ออกมาสาบานตนต่อหน้าองค์พระธาตุพนม เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจตามประเพณีความเชื่อ ในการทำหน้าที่ตรวจสอบการบริหารจัดการรายได้ของวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ด้วยความโปร่งใส พร้อมกล่าวคำสาบานหากมีเจตนาไม่บริสุทธิ์ขอให้มีอันเป็นไป
นอกจากนี้ ยังมีการตรวจสอบข้อมูลว่า บัญชีธนาคารของวัด รวม 5 บัญชี มีการเคลื่อนไหวปกติ หลังมีการตั้งคณะทำงานตรวจสอบ อีกทั้งทางไวยาวัชกรวัดชุดเดิม ไม่สามารถชี้แจงบัญชีรายรับ รายจ่ายของวัดได้ ถือว่ามีข้อพิรุธ ที่จะต้องดำเนินการตรวจสอบ และนำคณะทำงาน เข้ามาบริหารจัดเก็บเงินบริจาควันต่อวัน จนกว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการ ไวยาวัชกร ชุดใหม่
นายจักรพงษ์ ปทุมไกยะ นายอำเภอธาตุพนม เปิดเผยว่า ต้องยอมรับว่า ปัญหาการแต่งตั้งคณะกรรมการ ไวยาวัชกรวัดที่ผ่านมาเป็นการผูกขาดสืบทอดกันมาหลาย 10 ปี ไม่มีวาระ ทำให้เป็นปัญหายืดเยื้อมานาน ตนในฐานะลูกหลานองค์พระธาตุพนม บ้านเกิดอยู่อำเภอธาตุพนม ได้รับการร้องเรียนจากตัวแทนชาวบ้าน ให้มีการตรวจสอบการบริหารจัดการรายได้ของวัด เนื่องจากมีความผิดปกติหลายอย่างในการดูแลบัญชีรายรับรายจ่ายของวัด โดยมีการทำหนังสือแจ้งให้คณะกรรมการ ไวยาวัชกรวัด ชี้แจงสถานะบัญชีของวัดล่าสุด แต่ไม่มีความชัดเจน จึงได้หารือกับทางเจ้าอาวาส พร้อมลงนามคำสั่งให้ไวยาวัชกรวัดที่ดูแลการเงิน หยุดทำหน้าที่ รอการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง รอการตรวจสอบของ ป.ป.ช.
อย่างไรก็ตาม ตนพร้อมทีมงานได้สาบานตน ที่จะตรวจสอบปมยักยอกเงินให้มีคงวามโปร่งใส เงินทุกบาททุกสตางค์ จะต้องเข้าวัดตามเจตนาผู้บริจาค และต้องชี้แจงตรวจสอบได้ อยู่ระหว่างการดำเนินการ หากพบว่า มีคนกระทำผิดจะต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เมื่อมีการตรวจสอบเป็นที่ชัดเจน จะตั้งคณะกรรมการ ไวยาวัชกรชุดใหม่ เข้ามาทำงานมีวาระ 4 -5 ปี ตัดปัญหาผูกขาด ขอยืนยันว่า ทุกอย่างที่ตนดำเนินการ เพื่อชาว จ.นครพนม รวมถึงพลังศรัทธา ที่มีความศรัทธาต่อองค์พระธาตุพนม ไม่ให้กลุ่มแสวงประโยชขน์เข้ามามีส่วนได้ส่วนเสียในวัด และรายได้จะต้องเข้าวัดทั้งหมด พร้อมตรวจสอบได้ตลอดเวลา
ข่าว/ภาพ : พัฒนพงษ์ ศรีเพียชัย ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครพนม
