นอภ.ทองผาภูมินำออกหน่วยบริการพื้นที่ห่างไกลกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง

เมื่อวันที่ 31 มีนาคม นายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ ร่วมกับ นายศุภพิชญ์ สงภักดิ์ หัวหน้าศูนย์บริหารการทะเบียนภาค 7 สาขาจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักทะเบียนอำเภอทองผาภูมิและเจ้าหน้าที่สำนักบริหารการทะเบียนภาค7 สาขาจังหวัดกาญจนบุรี กว่า 25 คน เดินทางโดยเรือหางยาวมายังบ้านปิล็อกคี่ ม.4 ต.ปิล็อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ซึ่งอยู่ห่างจากตัวอำเภอกว่า 20 กม. เพื่ออำนวยความสะดวกงานด้านทะเบียน ทุกเรื่อง ตั้งแต่การแจ้งเกิด การเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล การแจ้งย้ายที่อยู่ ขอบ้านเลขที่ การยื่นขอสัญชาติไทย มาตรา 7 ทวิและมาตรา 23 การขอมีบัตรใหม่ของเด็กตั้งแต่อายุ 7 ขวบขึ้นไป เป็นการออกหน่วยบริการงานทะเบียนเคลื่อนที่ (Mobile unite) เพื่อให้บริการงานทะเบียนในพื้นที่ห่างไกล ได้รับความสนใจจากประชาชนบ้านปิล็อกคี่ และหมู่บ้านใกล้เคียง เดินทางมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในเรื่องการขอสัญชาติไทย เนื่องจากประชาชนที่นี่ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง ที่ยังไม่ได้รับสัญชาติไทย  

นายศรีชัย ทองผาชนะโชค อายุ 55 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 71 ม 2 บ้านโบอ่อง ต.ปิล็อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า ตนเองเดินทางมาจากบ้านตั้งแต่เมื่อวาน เพื่อจะมาขอเปลี่ยนชื่อสกุล และทำบัตรให้กับลูกชายของตนเอง ซึ่งมีอายุครบ 7 ปีบริบูรณ์ ที่เลือกเดินทางมาที่นี่เนื่องจากใกล้บ้าน ช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปที่ว่าการอำเภอ หากไปที่อำเภอต้องเสียค่าเรือ-ค่ารถ –ค่าอาหาร ครั้งละมากกว่า 3,000 บาท เป็นค่าใช้จ่ายที่มากสำหรับชาวบ้านที่นี่ เนื่องจากส่วนใหญ่ประกอบอาชีพรับจ้างและเกษตรกร อย่างไรก็ตามการออกหน่วยบริการงานทะเบียนให้แก่ประชาชน ในพื้นที่ห่างไกลแบบนี้สำหรับตนเองถือว่าเป็นโครงการที่ดีมาก หากเป็นไปได้อยากให้มีทุกๆ ปี 

ด้าน น.ส.บุญมา แดงหอม อายุ 31 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 98 ม.4 บ้านปิล็อกคี่ ต.ปิล็อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ที่เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ปกติการเดินทางไปติดต่อราชการที่อำเภอในแต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายทั้งค่าเรือ ค่ารถ ที่มากว่า 2,500 บาท บางครั้งหากดำเนินการไม่เสร็จก็จำเป็นต้องหาที่พักค้างคืนทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มอีก ซึ่งเป็นเหตุสำคัญที่ชาวบ้านไม่ค่อยอยากเดินทางไปติดต่อราชการที่อำเภอทองผาภูมิ วันนี้เมื่อรู้ว่านายอำเภอนำเจ้าหน้าที่มาให้บริการถึงหมู่บ้านจึงรีบพาแม่มา โดยวันนี้มาแจ้งเปลี่ยนชื่อของแม่ให้ถูกตามทะเบียนบ้าน เนื่องจากชื่อแม่ในทะเบียนบ้านและในบัตรไม่ตรงกัน หากเป็นไปได้อยากให้มีการจัดโครงการแบบนี้บ่อยๆ 

ขณะที่ นายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ เปิดเผยที่มาของโครงการจัดหน่วยบริการงานทะเบียนเคลื่อนที่ของอำเภอทองผาภูมิในครั้งนี้ว่า เกิดจากที่ผ่านมาเคยเดินทางลงพื้นที่บ้านปิล็อกคี่ จึงได้เห็นถึงความยากลำบากในการเดินทางที่ต้องเริ่มจากรถ มาลงเรือระยะทางกว่า 20 กม. ก่อนจะต่อด้วยการขึ้นรถขับเคลื่อน 4 ล้ออีกครั้งก่อนจะถึงหมู่บ้าน ประกอบกับชาวบ้านที่นี่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง ที่มีอาชีพด้านการเกษตร ประมงและรับจ้าง ทำให้มีรายได้ไม่มากนัก จากการได้ลงพื้นที่เห็นถึงความยากลำบากในการเดินทางของประชาชนในการไปติดต่อราชการที่อำเภอ เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายที่สูงถึงครั้งละกว่า 3,000 บาท จึงได้ตัดสินใจจัดทำโครงการนี้ขึ้นมาเพื่อให้บริการประชาชน เป็นการสร้างความสุข สร้างรอยยิ้ม และลดภาระค่าใช้ให้พี่น้องประชาชนได้อีกทาง  

ทั้งนี้ บ้านปิล็อกคี่มีประชากรทั้งหมด 1,700 คน รวม 320 ครอบครัว ในช่วงเวลา 3 วันที่มาให้บริการมีเรื่องการขอสัญชาติและงานสถานะบุคคล เป็นเรื่องที่ชาวบ้านมาใช้บริการและขอคำปรึกษามากที่สุด นอกจากที่บ้านปิล็อกคี่แห่งนี้แล้วทางอำเภอทองผาภูมิและศูนย์บริหารการทะเบียนภาค7 สาขาจังหวัดกาญจนบุรี ยังมีโครงการจัดหน่วยบริการงานทะเบียนเคลื่อนที่ไปยังพื้นที่อื่นๆ ในอำเภอทองผาภูมิ ที่เป็นพื้นที่ห่างไกล ทุรกันดาร เพื่อออกบริการงานทะเบียนให้กับประชาชนได้รับการบริการอย่างทั่วถึง สะดวกสบาย และไม่เสียค่าใช้จ่าย ตามนโยบาย บำบัดทุกข์ บำรุงสุข กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย 

Message us