เมื่อวันที่ 17 กันยายน ที่ จ.นครพนม ระดับน้ำโขงยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ถึงแม้ไม่มีฝนตกหนักในพื้นที่ แต่มีมวลน้ำมาจากภาคเหนือ ไหลมาสมทบ ล่าสุดระดับน้ำโขงอยู่ที่ระดับประมาณ 11.70 เมตร ห่างจากจุดวิกฤติเฝ้าระวังเตือนภัย ประมาณ 30 เซนติเมตร คือที่ 12 เมตร ทำให้น้ำโขงเริ่มเอ่อท่วมพื้นที่ติดริมตลิ่ง พื้นที่ลุ่มต่ำ รวมถึงทางเดินเท้าออกกำลังกาย เลียบริมฝั่งแม่น้ำโขง ที่มีการก่อสร้าง เพื่อการท่องเที่ยว เนื่องจากเป็นพื้นที่ต่ำ และชั้นร้านค้าชั้นใต้ดิน ลานพญานาค องค์พญาศรีสัตตนาคราช เพราะเป็นจุดก่อสร้างขึ้นเพื่อเป็นค้านจำหน่ายสินค้า จำหน่ายอาหาร ส่งเสริมการท่องเที่ยว ให้สามารถชมวิวใกล้น้ำโขงมากที่สุด พอระดับน้ำโขง สูงจึงเอ่อท่วม แต่มีการอพยพเคลื่อนย้ายสิ่งของ ออกจากพื้นที่หมดแล้ว ส่วนพื้นที่ตัวเมืองยังไม่มีการเอ่อล้นท่วม ส่วนพื้นที่ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่เป็นพื้นที่การเกษตร ติดแม่น้ำโขง ในพื้นที่ ชายแดน 4 อำเภอ มี อ.บ้านแพง อ.ท่าอุเทน อ.เมืองนครพนม และ อ.ธาตุพนม รวมถึง บ้านเรือนที่มีปลูกสร้างติดแม่น้ำโขง อยู่ระหว่างหน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งสำรวจให้การช่วยเหลือ
นายนิวัต เจียวิริยบุญญา นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองนครพนม เปิดเผยว่า ในช่วงนี้ยอมรับว่าน้ำโขง เพิ่มระดับต่อเนื่องทุกวัน เนื่องจากมีมวลน้ำไหลมาจากภาคเหนือ ล่าสุดระดับ เกือบ 12 เมตร ถือว่า ใกล้จุดวิกฤติ หรือว่าเป็นจุดเตือนเฝ้าระวัง ระดับสีเหลือง แต่ระดับน้ำโขง ยังห่างจากเขื่อนป้องกันตลิ่ง ในเขตเทสบาลเมืองนครพนม ประมาณ 4 -5 เมตร มั่นใจว่าโอกาสน้ำโขงจะล้นเข้าตัวเมืองมีโอกาสน้อย เพราะระดับน้ำโขงจะต้องสูง ประมาณ 15 เมตร ถึงจะล้นเข้าตัวเมือง อย่างไรก็ตามทางเทศบาลเมืองนครพนม รวมถึงจังหวัดนครพนม ได้เฝ้าระวัง เตรียมพร้อม 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันดูแลช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ ทั้งการจัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเฝ้าระวัง ประชาสัมพันธ์ จัดเตรียมกระสอบทราย ถุงบิ๊กแบ็คใส่ทราย หากเกิดภาวะฉุกเฉินสามารถดูแลช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงที
สำหรับ จุดระบายน้ำลงน้ำโขง มี 4 จุด ที่จะเสี่ยงทำให้น้ำโขงไหลย้อนกลับ หากระดับน้ำโขงสูง 13 เมตร จะมีการปิดทางระบายน้ำทุกจุด พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ขนาดใหญ่ ทุกจุด เพื่อเดินเครื่องสูบน้ำลงน้ำโขง ตลอด 24 ชั่วโมง ยืนยัน ทางเทศบาลเมือง เตรียมพร้อมตลอดเวลา หรือหากเกิดภาวะฉุกเฉิน ได้ตั้งศูนย์พักพิงช่วยเหลือประชาชน ที่สนามกีฬาจังหวัดนครพนม มั่นใจว่าโอกาสท่วมตัวเมืองน้อยมาก เนื่องจากไม่มีปริมาณฝนตกหนักในพื้นที่ น้ำส่วนใหญ่มาจากพื้นที่ภาคเหนือ
ข่าว/ภาพ : พัฒนพงษ์ ศรีเพียชัย ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครพนม
