เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม น.ส.อภิรมย์ฤดี มหาวงศ์ศนันท์ ผู้ประกอบการบนเกาะราชาใหญ่ เปิดเผยว่า คราบน้ำมันมีผลกระทบ กับนักท่องเที่ยวโดนเต็มๆเมื่อลง เล่นน้ำ โดนทั้งตัว ส่งผลกระทบ เต็มๆ กับนักท่องเที่ยว ลูกค้าจีนและ ฝรั่ง ตกใจว่าน้ำมันมาได้อย่างไร โดยเฉพาะทัวร์จีน ลูกสาวเขาเจอสภาพคราบน้ำมันติดตามร่างกายเอาไม่ออก ร้องไห้ไม่หยุด เขาคงตกใจมากเพราะไม่เคยเจอ โดยในช่วงนี้ เป็นช่วง Low season ของการท่องเที่ยว ของจังหวัดภูเก็ตนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวบนเกาะราชาใหญ่ ตลาดหลักเป็นตลาดจีนรองลงมาเป็นยุโรป เดินทางมาท่องเที่ยวบนเกาะราชาใหญ่ โดยบริษัททัวร์ และเข้ามากับเรือใบ โดยส่วนตัวตนได้เปิดร้านค้าบนเกาะราชาเป็นเวลา 30 ปีแล้ว ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่พบ คราบน้ำมันสีดำ ขึ้นบนชายหาดจำนวนมาก สาเหตุ คาดว่าน่าจะมาจากเรือน้ำมัน เพราะถ้าเป็นเรือสปีดโบ๊ทเป็นไปไม่ได้ เพราะไม่ได้ปล่อยน้ำมันลงทะเล
อย่างไรก็ตาม คราบน้ำมันที่ขึ้นตามชายหาด ผู้ประกอบการชาวบ้าน โรงแรม และพนักงานรักษาความปลอดภัยของโรงแรม ได้ช่วยกันเก็บทุกเช้า ตั้งแต่เมื่อวันที่ 5 ส.ค. เป็นต้นมา และได้ร้องเรียนไปที่ ทัพเรือภาคที่ 3 เมื่อวานนี้ทาง พับเรือภาคที่ 3 ได้ส่งเจ้าหน้าที่ เข้ามาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาทำงานได้รวดเร็วมาก ปกติชายหาดบนเกาะราชามีความสวยงามมาก เมื่อคราบน้ำมันขึ้นมาทำให้ศักยภาพของธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้รับผลกระทบเสียหาย
พลเรือโท อาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ในฐานะ ผู้อำนวยการ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 กล่าวว่า จากการที่ศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 ศรชล.ภาค 3 (ศปก.ศรชล.ภาค3) ได้รับแจ้งตรวจพบก้อนน้ำมันสีดำจำนวนมากขึ้นที่หาดปะตก หาดสยาม ของเกาะราชาใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ได้สั่งการให้ เรือต.111 สนับสนุนกำลังพล และให้ นาวาเอก กฤษณ์ เคลือบมาศ รองผอ.ศรชล.จังหวัดภูเก็ต นำคณะเจ้าหน้าที่บูรณาการกำลังร่วมกิจกรรมเก็บกวาดคราบน้ำมัน ประกอบด้วย ทัพเรือภาคที่ 3 ศรชล.ภาค3 ศรชล.จังหวัดภูเก็ต เทศบาลตำบลราไวย์ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลจังหวัดภูเก็ต ผู้ประกอบการ และประชาชน ร่วมกันเก็บกวาดคราบน้ำมันสีดำ ที่ บริเวณอ่าวปะตกและอ่าวสยาม เกาะราชาใหญ่ ตำบลราไวย์ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต
นาวาเอก กฤษณ์ เคลือบมาศ รองผู้อำนวยการ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดภูเก็ต (ศรชล.จังหวัดภูเก็ต) กล่าวว่า ผู้ประกอบการโรงแรมได้ช่วยกันเก็บคราบน้ำมันไว้แล้วจำนวนหนึ่ง และทางคณะได้ลงพื้นที่เก็บที่อ่าวสยามและอ่าวปะตกของเกาะราชา ซึ่งที่อ่าวปะตกพบมีจำนวนมากกระจายทั้งหน้าชายหาดเก็บไปมากกว่า 80% -90 % ของพื้นที่ หลังจากคืนสภาพกลับมาแล้ว ยังไม่แน่ใจว่า จะมีคราบน้ำมันจะลอยขึ้นมา ฃอีกหรือไม่ ส่วนการดำเนินการต่อไปศรชล.จังหวัดภูเก็ต จะไปแจ้งความดำเนินคดี ร้องทุกข์กล่าวโทษผู้ที่กระทำความผิดตามกฎหมาย ที่ สภ.ฉลอง ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย เจ้าท่าภูเก็ต กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และ เทศบาลตำบลราไวย์
สำหรับ สาเหตุของการเกิดคราบน้ำมันสีดำตามชายหาดทั่วภูเก็ต คาดว่าจะเป็นเรือน้ำมันแทงค์เกอร์ ที่อาจจะมีการล้างเรือ อาจมีน้ำทะเลปนในน้ำมันหรืออาจจะ เปลี่ยนน้ำมันกลางทะเล โดยไม่รับผิดชอบ ทำให้เกิดผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมมูลค่าความเสียหายประเมินค่าไม่ได้
อย่างไรก็ตาม เกาะราชานอกจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลและชายหาดแล้วยังมีแหล่งดำน้ำด้วยเมื่อดำลงไปไม่แตกต่างกับสัตว์ทะเลจะเห็นว่ามีเต่าทะเลที่ถูกคราบน้ำมัน ขึ้นมาตายบนฝั่ง เมื่อวันที่ 6ส.ค. ผู้ประกอบการพบเต่าติดคราบน้ำมัน 1 ตัวส่งไปที่หน่วยรับผิดชอบดูแลรักษา และวันนี้ที่เก็บคราบน้ำมันพบเต่าตาย 1 ตัว ปะปนกับคราบน้ำมันรู้สึกสะเทือนใจเป็นอย่างยิ่ง
นาวาเอก กฤษณ์ กล่าวว่า ในส่วนนักท่องเที่ยว ที่ลงไปเล่นน้ำก่อนหน้านี้ ทราบว่า คราบน้ำมัน ได้ติดตามร่างกายของนักท่องเที่ยว จำนวนหลายคนที่ลงไปเล่นน้ำในทะเล ของเกาะราชา ใหญ่ และมี ผู้ประกอบการร้านค้าบนเกาะราชา ได้ช่วยกัน เอาน้ำมันพืชมา ล้างคราบน้ำมันสีดำออกจากร่างกายให้กับนักท่องเที่ยวรวมทั้งเสื้อผ้ารองเท้าที่นักท่องเที่ยวเดินเล่นและพักผ่อนบริเวณชายหาดบนเกาะราชาใหญ่ ขอแจ้งเตือนว่า ถ้าโดนคราบน้ำมันสีดำให้ใช้น้ำมันพืช สามารถชะล้างขจัดคราบได้ดี
ด้าน นายธีรพงษ์ เถาว์แดง รองนายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ กล่าวว่า ได้นำเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลราไวย์จำนวน 20 นายร่วมกับศรชล.ภาค 3 เก็บคราบน้ำมัน ส่วนมากจะเป็นก้อนและเป็นแผ่นเล็กๆ น้อยๆ ที่ฝังทรายอยู่โดยเฉพาะทางด้านอ่าวสยาม จะมีน้อยกว่าอ่าวปะตก บนเกาะราชาใหญ่
“การเก็บคราบน้ำมันสีดำครั้งนี้ ได้จำนวนน้ำหนักกว่าครึ่งตัน ได้ฝังทรายไปบางส่วนและที่ลอยเข้ามา ก็คงจะต้องเก็บต่อเนื่อง โดยต้องคุยกับผู้ประกอบการบนเกาะราชาใหญ่ ให้ช่วยดูแล ต้องช่วยกันเก็บให้เรียบร้อย สำหรับ พื้นที่ในตำบลราไวย์มีที่ได้รับ ผลกระทบจากคราบน้ำมันสีดำที่บริเวณหาดยะนุ้ย และ เกาะราชาใหญ่ คราบน้ำมันที่พบลอยมาตั้งแต่ตำบลไม้ขาวและมาถึงตำบลราไวย์ ซึ่งจะต้องนำสิ่งที่เก็บขึ้นมาไปกำจัด จะต้องหาที่ฝังกลบ ให้เรียบร้อย “นายธีรพงษ์ กล่าว
ข่าว/ภาพ : อชัถยา ชื่นนิรันดร์ ผู้สื่อข่าวจังหวัดภูเก็ต
