เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวเกาะติดการไล่ล่าตัว ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนกราดยิงภายใน สนามชนไก่ ป.บางเลนนครปฐม ในพื้นที่อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม แม้จะไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่ก็ถือเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจและตั้งคำถามในหลายประเด็น ก่อนหน้าได้มีการจับกุมตัวผู้ต้องหาไปแล้ว 2 ราย และเป็นการสั่งการโดยตรงจาก นายกรัฐมนตรี และพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรแห่งชาติ ได้กำชับให้เร่งติดตามตัวคนร้ายที่เหลือมาดำเนินคดีให้ได้ เนื่องจากเป็นการเย้ยกฎหมายบ้านเมือง โดยได้สั่งการให้ พล.ต.อ.ธนา ชูวงษ์ รองผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ลงพื้นที่เร่งรัดคลี่คลายคดี โดยมี พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 แจ้งรายงานความคืบหน้าในการตั้งชุดอินทรีย์ 7 ออกติดตามจับกุมคนร้ายที่ยังหลบหนี
ทั้งนี้ เจ้าหน้าตำรวจได้จับกุมผู้ต้องหาอีก 1 ราย คือ นายประพัฒน์ อินทรชาติ อายุ 41 ปี ชาว จ.ราชบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 2 หมายของศาลจังหวัดนครปฐม สามารถจับกุมได้ที่พื้นที่ สภ.บ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี จากนั้นได้ควบคุมตัวมาสอบสวน ที่ สภ.บางเลน โดยผู้ต้องหามีท่าทีนิ่งเฉย และไม่ตอบคำถามใดๆ กับสื่อมวลชน การจับกุมครั้งนี้จึงเป็นการจับกุม ผู้ต้องหารายที่ 3 จากทั้งหมด 5 ราย ก่อนหน้าได้มีการจับกุมผู้ต้องหาไปแล้ว 2 ราย คือ นายสมควร หนูหุ่น และ นายอิทธิพล พวงอยู่ ขณะนี้ยังมีผู้ต้องหาที่หลบหนีอีก 2 ราย คือ นายเอกพันธ์ ขันทอง อายุ 34 ปี ชาวอำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรีและนายจีระศักดิ์ คำสุข อายุ 43 ปี ชาวอำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี
วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นายสมควร หนูหุ่น และ นายอิทธิพล พวงอยู่ ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนครปฐมหลังทำการสอบปากคำมาแล้ว 2 วัน ซึ่งวันนี้ได้มีการแยกสอบปากคำกับนายประพัฒน์ ที่เพิ่งถูกจับกุมตัวมาโดย ทั้งหมดยังไม่ได้พบหน้ากัน ทางตำรวจได้จับแยกเพื่อหาข้อมูลทั้งหมดที่ปรากฏและติดตามการหลบหนีของผู้ต้องหาอีก 2 ราย
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า วันเกิดเหตุได้มีชุดการ์ด ที่ได้เข้ามาควบคุมพื้นที่แข่งขันพนันไก่ชน โดยระบุว่ามีทหารจากสังกัดหนึ่งในพื้นที่ตัวเมืองนครปฐมได้เข้ามาควบคุมสถานการณ์ในเหตุการณ์และอยู่ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ด้วยทำให้ประชาชนตั้งคำถามว่าสถานที่ดังกล่าวเป็นที่รวบรวมของผู้มีอิทธิพลทั้งในพื้นที่และต่างพื้นที่ มีข้าราชการเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ และทหารชุดดังกล่าวมาจากสังกัดใด หัวหน้าหน่วยหรือผู้บังคับบัญชาได้ทราบถึงพฤติกรรมหรือไม่
ภาพ/ข่าว : กิตติพงษ์ จันทร์ละมูล ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครปฐม
