เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. ที่บริเวณอ่าวปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่หน่วยปราบปรามประมงทะเลปากพนัง และเจ้าหน้าที่ ศรชล.ภาค 2 นครศรีธรรมราช ได้ใช้เรือแอร์โบ๊ท เรือที่สามารถเข้าถึงได้ทุกพื้นที่แม้กระทั่งบนดินเลน มีการไล่ล่าจับกุมกลุ่มเรือประมงที่ใช้เครื่องมือประมงผิดกฎหมายกลุ่มลอบไอ้โง่ หนึ่งในเครื่องมือทำลายล้างสัตว์ทะเล โดยเจ้าหน้าที่ได้แล่นเรือไปบนดินเลนไปดักด้านหน้าและสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 คน พร้อมของกลางลอบไอ้โง่ในร่องน้ำเล็กๆ เข้าสู่ป่าชายเลน ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ไล่ล่าอย่างยากลำบาก เนื่องจากจากเรือของราชการไม่สามารถเข้าไปยังร่องน้ำตื้นได้ จึงมีการปรับแผนนำเรือแอร์โบ๊ทมาใช้ทำให้เข้าถึงกลุ่มที่ใช้เครื่องมือประมงผิดกฎหมายได้ และสามารถกดดันการทำผิดกฎหมายได้ผลดีมากขึ้น
ทั้งนี้ การกวาดล้างจับกุมเครื่องมือผิดกฎหมายทุกครั้งจะมีเรือประมงขนาดเล็กคอยเฝ้าสังเกตการณ์อยู่แต่ไม่กล้าแสดงตัวหรือขัดขวางเหมือนเมื่อก่อน โดยเฉพาะกลุ่มลอบไอ้โง่เจ้าหน้าที่จะใช้วิธีการตระเวนเก็บยึดและเข้าแจ้งความร้องทุกข์เพื่อติดตามหาตัวเจ้าของ ซึ่งการตรวจยึดเช่นนี้จะสร้างผลกระทบให้กับนายทุนที่อยู่เบื้องหลังที่ออกทุนในการจัดหาให้ชาวประมงที่ไม่มีทุนเพียงพอ โดยลอบพับหรือลอบไอ้โง่ 1 ลูก ของใหม่มีราคา 600-800 บาท ชาวประมง 1 ราย จะมีถึง 100 ลูก หากถูกยึดทั้งหมดความเสียหายของนายทุนจะสูงถึง 6-8 หมื่นบาท หากถูกจับกุมต่อเนื่องจะทำให้นายทุนไม่กล้าออกทุนให้ ส่งผลให้ชาวประมงพื้นบ้านเริ่มกลับไปใช้เครื่องมือถูกกฎหมายเช่นเดิม
สำหรับความผิดลอบไอ้โง่ หรือลอบพับ ตามพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 67 ได้บัญญัติห้ามมิให้ผู้ใดใช้หรือมีไว้ในครอบครองเพื่อใช้เครื่องมือทำการประมงชนิดเครื่องมือลอบพับได้หรือไอ้โง่ที่มีช่องทางเข้าของสัตว์น้ำ สลับซ้ายขวาอยู่ทางด้านข้าง อันเนื่องมาจากเครื่องมือชนิดนี้เมื่อนำมาทำการประมงในแหล่งน้ำหรือทะเลจะจับสัตว์น้ำได้ทุกชนิด แต่เครื่องมือชนิดนี้ไม่ได้ห้ามใช้จับสัตว์น้ำในบ่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ จึงเป็นช่องทางให้หาซื้อในตลาดทั่วไปได้ง่าย ก่อให้เกิดปัญหาการใช้เครื่องมือประมงผิดกฎหมายในพื้นที่สาธารณะดังกล่าว
ข่าว/ภาพ : นุชจรี แรกรุ่น ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครศรีธรรมราช
