ตั้งกรรมการสอบ 2 ตร.จราจรนำขบวนนักท่องเที่ยวสาวจีนในคลิปฉาว

กรณีที่มีนักท่องเที่ยวหญิงชาวจีนโพสต์คลิปวิดีโอว่า เข้ามาเที่ยวในประเทศไทย แล้วใช้บริการรถของตำรวจขับรถนำเพื่ออำนวยความสะดวกตั้งแต่ลงจากเครื่องบินจนถึงเข้าที่พักในโรงแรม นอกจากนั้นยังมีตำรวจท่องเที่ยว 1 นาย มาอำนวยความสะดวกขณะเดินออกมาจากเครื่องบินเพื่อพาไปช่องทางพิเศษ โดยที่ไม่ต้องรอคิวเหมือนนักท่องเที่ยวคนอื่น

หลังจากคลิปนี้ถูกเผยแพร่ออกไป พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) สั่งให้ตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่ามีตำรวจท่องเที่ยว 1 นาย ยศ ร.ต.อ. ตำแหน่ง รองสารวัตร กองกำกับการ 3 (รับผิดชอบสนามบินสุวรรณภูมิ) สังกัดกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1 และ ตำรวจกองบังคับการตำรวจจราจร 2 นาย ยศ ส.ต.อ.เป็นผู้ที่ปรากฏอยู่ในคลิปวิดีโอดังกล่าว

ขณะนี้ทั้ง 2 หน่วยงานได้มีคำสั่งให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว พร้อมกับให้ย้ายตำรวจทั้ง 3 นายเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ที่ศูนย์ปฏิบัติการ และอยู่ระหว่างการพิจารณาลงโทษ นอกจากจะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบผู้ที่ปรากฏอยู่ในคลิปแล้ว ยังมีคำสั่งให้ตรวจสอบถึงผู้บังคับบัญชา ตั้งแต่ระดับผู้กำกับการ รองผู้กำกับการ และสารวัตร ที่ควบคุมการปฏิบัติงานของตำรวจที่ปรากฏในคลิปพร้อมกับให้จเรตำรวจแห่งชาติ เรียกทั้ง 3 คน มาสอบสวนดำเนินการทางวินัยเพิ่มเติม

ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 ม.ค. ที่กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) มีรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ของทางราชการคันที่ปรากฏอยู่ในคลิปขับรถนำนักท่องเที่ยวจีนจอดอยู่ โดยรถคันนี้ไม่มีตราสัญลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ กองบังคับการตำรวจจราจร รวมทั้งป้ายทะเบียนเป็นป้ายของรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล แต่มีการตกแต่งโดยติดสัญญาณไซเรน และไฟวับวาบไว้ที่รถด้วย นอกจากนั้นยังมีถุงมือ และผ้าคลุมศีรษะสีดำ วางอยู่ด้านหน้าคอนโซลรถ

แหล่งข่าวในกองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ผู้บังคับบัญชาของตำรวจจราจรทั้ง 2 นาย ได้เรียกให้เข้ามาชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่กองบังคับการตำรวจจราจร ขณะนี้ยังไม่มีบุคคลใดให้ข้อมูลถึงผลการสอบสวนในเบื้องต้น

ด้าน พล.ต.ต. อภิชาติ สุริบุญญา รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (รอง ผบช.ทท.) ในฐานะโฆษกตำรวจท่องเที่ยว ปฏิเสธว่า ไม่ได้เป็นคนให้ข่าวกับสื่อมวลชนว่า ตำรวจท่องเที่ยวที่อยู่ในคลิปให้การว่า ได้รับการประสานจากคนขับรถของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้ไปขับรถนำขบวนและอำนายความสะดวกกับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ เพราะยังไม่ได้มีการเรียกเข้ามาให้การอย่างเป็นทางการ เนื่องจากอยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง

จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า รถที่ใช้เป็นรถส่วนตัว ไม่ใช่รถของทางราชการ ไม่ถือเป็นความผิดทางอาญาแต่มีความผิดทางวินัย เพราะเป็นความประพฤติไม่เหมาะสม เนื่องจาก ตำรวจท่องเที่ยวต้องดูแลและอำนวยความสะดวกกับนักท่องเที่ยวทุกคนในภาพรวม ไม่ใช่บุคคลใดบุคคลหนึ่งเป็นพิเศษ และในวันดังกล่าวไม่มีคำสั่งจากหน่วยงานให้ไปอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวแต่อย่างใด แต่จากพฤติกรรมทำให้เชื่อว่า เป็นการรับงานพิเศษในการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว

อย่างไรก็ตาม หากการสอบสวนพบว่า มีคนขับรถของรัฐมนตรีเกี่ยวข้องด้วยตามที่เป็นข่าวก็จะต้องเชิญตัวมาให้ข้อมูลด้วยเช่นกันเพื่อให้เกิดความชัดเจนในประเด็นดังกล่าว

Message us