
เมื่อวันที่ 9 มี.ค. ที่ สน.ประชาชื่น พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ รอง ผบช.น. ได้เรียกประชุมเพื่อเร่งรัดติดตามคดีการเสียชีวิตของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้ ใช้เวลาประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมง โดยมี พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.เจษฎา สวยสม ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 พ.ต.อ.ธิติพงศ์ ภิวัฒน์วุฒิกุล รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พ.ต.อ.สัญญา อุบลวิรัตนา ผกก.สน.ประชาชื่น เข้าร่วมประชุม
พล.ต.ต.สมควร ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมเสร็จสิ้นกรณีทางเรือนจำปฏิเสธไม่ให้เข้าสอบสวนผู้กำกับโจ้ว่า ที่เข้าไปสอบสวนคดีทำร้ายร่างกายไม่ได้ เพราะทางเรือนจำแจ้งขัดข้อง ส่วนผ้าขนหนูในการก่อเหตุ พบถูกตัดเนื่องจากช่วยชีวิต
ด้าน พล.ต.ต.เจษฎา กล่าวว่า วันนี้มีการประชุมติดตามเร่งรัดคดี ทั้งในส่วนคดีที่ผู้กำกับโจ้เสียชีวิต และถูกทำร้ายร่างกาย โดยคดีการเสียชีวิตของผู้กำกับโจ้ เบื้องต้นมีการเก็บพยานหลักฐานในพื้นที่มาครบแล้ว รวมถึงกล้องวงจรปิดทั้งหมด หลังจากนี้จะมีการตรวจสอบหลักฐานทั้งหมดอย่างละเอียด โดยเฉพาะผ้าขนหนูที่ผู้กำกับโจ้ ใช้ในการก่อเหตุ ความยาวของผ้าขนหนูตอนนี้ยังระบุไม่ได้ เนื่องจากพบว่าเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ ได้มีการตัดผ้าออกเพื่อช่วยชีวิต
สำหรับ คดีที่ผู้กำกับโจ้ ถูกทำร้ายร่างกาย ได้มอบอำนาจให้ทนายความมาแจ้งความไว้เมื่อวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา หลังจากนั้นตำรวจได้มีการดำเนินการมาตลอด และได้ข้อมูลใบความเห็นแพทย์ว่า ผู้กำกับโจ้ มีรอยฟกช้ำถูกทำร้ายร่างกายมาแล้ว แต่เบื้องต้นยังไม่ได้มีการเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ และยังไม่ได้สอบสวน รวมถึงยังไม่ได้แจ้งข้อหากับใคร และยังไม่ได้สอบปากคำผู้กำกับโจ้ มีเพียงเข้าไปพูดคุยเบื้องต้นด้วยการเข้าไปเยี่ยมเท่านั้น เนื่องจากการเข้าไปสอบปากคำจะต้องมีขั้นตอนการเข้าไปดำเนินการในเรือนจำ แต่เมื่อประสานไปแล้วทางเรือนจำแจ้งว่ามีความขัดข้องเกิดขึ้น แต่ไม่ทราบว่าเหตุขัดข้องที่ว่าคืออะไร
พล.ต.ต.เจษฎา กล่าวว่า หลังจากนี้จะดำเนินการสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด คดีนี้เมื่อผู้ร้องทุกข์เสียชีวิตไปแล้วทำให้การดำเนินการยากขึ้น แต่ก็อยู่ในวิสัยที่ทำได้ ส่วนประเด็นที่ทางญาติมีนักโทษอีก 5 คน ที่ถูกผู้คุมคนเดียวกันทำร้าย เรื่องนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ หากพบความผิดจะเร่งดำเนินการ อย่างไรก็ตามตำรวจไม่ได้กังวลอะไร พร้อมดำเนินการตามหลักวิทยาศาสตร์ และจะทำทุกอย่างให้โปร่งใสที่สุด
ขณะที่ พ.ต.อ.ธิติพงศ์ ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นภาพจากกล้องวงจรปิดที่เรือนจำเผยแพร่ถูกตัดต่อให้เหลือสั้น ๆ ว่า คลิปที่ถูกเผยแพร่เป็นคลิปบางส่วนเท่านั้น แต่ครอบครัวของผู้กำกับโจ้ ได้ดูภาพเหตุการณ์ฉบับเต็มทั้งหมดแล้ว หลังจากนี้ภาพฉบับเต็มทั้งหมดก็จะถูกนำมาเป็นหลักฐานในการทำคดีต่อไป