
เมื่อวันที่ 28 เมษายน ที่คริสตจักรกะเหรี่ยงแบ๊บติสท์บ้านโป่ง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน สถานที่ตั้งศพและประกอบพิธีทางศาสนาของ 2 ร่าง คือนายกมล สุกุลกิจ และ นายดิเก สุกุลกิจ ผู้เสียชีวิตราษฎรบ้านแม่กองคา ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งถูกนายยุทธนา อายุ 37 ปี ยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 23 เมษายน โดยไม่ทราบสาเหตุ โดยมีประชาชน ชาวบ้าน ญาติพี่น้องของทั้งสองครอบครัว เดินทางมาร่วมไว้ความอาลัยตลอด และ ร่วมแสดงความเสียใจกับ 2 ครอบครัวผู้เสียชีวิต ก่อนจะเคลื่อนร่างผู้เสียชีวิตประกอบพิธีฝังตามประเพณี ณ สุสานกลางคริสต์ชนสัมพันธ์ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน

น.ส.อมลรดา จะเยอะ ภรรยา นายกมล สุกุลกิจ อายุ 41 ปี ราษฎรหมู่ที่ 10 แม่กองคา ตำบลแม่ยวม เปิดเผยว่า วันนี้ตนสามารถทำใจยอมรับกับเรื่องที่เกิดขึ้นได้บ้างแล้ว แต่เสียใจที่การกลับมาบ้านครั้งนี้เป็นการกลับมาครั้งสุดท้ายของสามี ตนกับสามีทำงานต่างจังหวัด จะกลับมาเยี่ยมพ่อสามีที่บ้านแม่กองคา ต.แม่ยวม ทุกปีในช่วงเทศกาลสงกรานต์ นายกมลเป็นเพื่อนกับผู้ก่อเหตุ ตอนที่กลับมาบ้านช่วงเทศกาลสงกรานต์ สามีทราบว่าเพื่อนหายไปในป่านานหลายวัน ยังมีความคิดช่วยออกตามหาเพื่อนที่หาย กลับมาบ้านรอบนี้ สามียังซื้อกาแฟห่อใหญ่เตรียมมาแบ่งให้กับนายบอย และน้าที่ถูกยิงเสียชีวิตคนละครึ่ง

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาสามีก็ไม่เคยเล่าเรื่องอะไรเกี่ยวกับผู้ก่อเหตุให้ฟัง รู้แค่ว่าสองคนนี้เขาเป็นเพื่อนกัน ตนไม่คิดว่า นายบอย ซึ่งเป็นเพื่อนจะมายิงสามีตนจนเสียชีวิต โดยไม่รู้ว่าสาเหตุอะไรเลย ขณะนี้ตนเองทำใจยอมรับกับเรื่องที่เกิดขึ้นได้บ้างแล้ว ขอให้คนก่อเหตุได้รับการลงโทษตามกฎหมาย ตนไม่คิดแค้นเคืองอะไร กับผู้ก่อเหตุ เพราะแค้นไปก็ไม่ทำให้สามีฟื้นขึ้นมาได้ ก็ขอให้เขาได้รับโทษชดใช้ในสิ่งที่เขาทำ ตนก็จะขอใช้ชีวิตที่เหลือทำงานและดูแลลูกๆทั้ง 3 คนให้ดีที่สุด

ด้าน นายบุญส่ง สุกุลกิจ เป็นน้องชายลุงดิเก สุกุลกิจ ผู้เสียชีวิต กล่าวเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ชาวบ้านแม่กองคายังมีความหวาดระแวงพากันย้ายไปอาศัยบ้านญาติพี่น้องที่กระจายตามหมู่บ้านต่างๆ ในอำเภอแม่สะเรียง ปล่อยบ้านทิ้งไว้ไม่มีคนอยู่สัตว์เลี้ยงไม่มีใครดูแล เพราะเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถจักกุมผู้ก่อเหตุได้ บ้านแม่กองคายังไม่ปลอดภัยสำหรับพวกเขา แม้ว่ายังมีเจ้าหน้าที่ทหารพรานที่ 36 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองแม่สะเรียง ร่วมถึงผู้นำชุมชน จะจัดกำลังจัดเวรยามมาเฝ้าระวังรักษาความปลอดภัยก็ตาม

ทั้งนี้ ตนจึงได้ขอร้องให้ผู้ชายของแต่ละครอบครัวในหมู่บ้านกลับมาเฝ้าดูแลบ้านตนเองและช่วยกันสอดส่องดูแลในหมู่บ้าน แต่ทุกคนก็ยังหวาดกลัวว่าผู้ก่อเหตุจะหวนกลับมาทำร้ายคนในหมู่บ้าน แม้ว่าจะมีกระแสข่าวว่า พบผู้ก่อเหตุในสถานที่ต่างๆ ในพื้นที่ อ.แม่ลาน้อย ก็ตาม แต่ก็ไม่มีใครยืนยันได้ชาวบ้านก็ยังไม่ไว้วางใจ ซึ่งทุกคนอยากให้เจ้าหน้าที่จับตัวผู้ก่อเหตุได้โดยเร็ว ส่วน จับเป็นไม่ได้ ก็ขอให้จับตาย เพราะถือว่าเป็นบุคคลอันตรายอย่างยิ่ง

สำหรับ เหตุการณ์ดังกล่าวเหตุสืบเนื่องจาก หนุ่มวัย 37 ปี จากคนหายเมื่อวันที่ 11 เมษายน จนกลายเป็นฆาตกรยิงชาวบ้าน 2 ศพ โดยไม่ทราบสาเหตุ เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จัดกำลังปฏิบัติการค้นหาผู้ก่อเหตุจนถึงวันนี้ ยังไม่พบเบาะแสหรือร่องรอยแต่อย่างใดโดยศาลแม่สะเรียงได้ออกหมายจับมือปืนแล้ว
ข่าว/ภาพ : นายทศพล บุญพัฒน์ ผู้สื่อข่าวจังหวัดแม่ฮ่องสอน