ซ้อมใหญ่”พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ

เมื่อเช้าวันที่ 7 พฤษภาคม นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้ทำหน้าที่พระยาแรกนาเทพีคู่หาบทอง ได้แก่ น.ส.ปนัดดา เปี่ยมมอญ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และน.ส.ภัทรปภา มินรินทร์ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ กรมส่งเสริมการเกษตร เทพีคู่หาบเงิน ได้แก่ น.ส.ธิรดา วงษ์กุดเลาะ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ กรมส่งเสริมการเกษตร และน.ส.วราภรณ์  วิลัยมาตย์ เจ้าพนักงานธุรการปฏิบัติงาน กรมวิชาการเกษตรพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานฝ่ายต่าง ๆ ทั้งในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักพระราชวัง กระทรวงกลาโหมกระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมประชาสัมพันธ์ เป็นต้น เข้าร่วมในการซ้อมใหญ่พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ประจำปี 2567ก่อนวันพระราชพิธีจริง ที่จะมีขึ้นในวันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม 2567ที่จะถึงนี้ตามฤกษ์พิธีไถหว่าน ระหว่างเวลา 08.09-08.39 น.ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง

นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ผู้ทำหน้าที่พระยาแรกนา เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรฯ ได้มีการเตรียมความพร้อมในด้านสถานที่การจัดงาน แนวทางการปฏิบัติในการเข้าร่วมงานพระราชพิธีฯ การรักษาความปลอดภัย การจราจร ตลอดจนการอำนวยความสะดวกด้านต่าง ๆ

นอกจากน้้น ได้มีการจัดเตรียมพันธุ์ข้าวทรงปลูกพระราชทานสำหรับบรรจุในซองพลาสติกเพื่อแจกจ่ายให้บรรดาพสกนิกร และชาวนาทั่วประเทศรับไปเป็นมิ่งขวัญและสิริมงคลในการประกอบอาชีพการเกษตร ประกอบด้วย พันธุ์ข้าวนาสวน 6 พันธุ์ และพันธุ์ข้าวเหนียว 2 พันธุ์ น้ำหนักรวมทั้งสิ้น 2,743 กิโลกรัม ซึ่งพระราชพิธีพืชมงคลฯ ประจำปี 2567 จะมีเกษตรกร สถาบันเกษตรกร และสหกรณ์ดีเด่น ที่ได้รับการคัดเลือกเข้ารับพระราชทานโล่รางวัลประกอบด้วย ปราชญ์เกษตรแห่งแผ่นดิน จำนวน 3 สาขา เกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ จำนวน 16 สาขาอาชีพ สถาบันเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ จำนวน 12 กลุ่ม และสหกรณ์ดีเด่นแห่งชาติ จำนวน 7 สหกรณ์ อีกด้วย

สำหรับ พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญได้สืบทอดมายาวนาน ตั้งแต่ครั้งสมัย กรุงสุโขทัยเป็นราชธานี และได้กระทำเต็มรูปบูรพประเพณีครั้งสุดท้ายในปี พ.ศ. 2479 เว้นไปจนกระทั่งในปี พ.ศ. 2503 คณะรัฐมนตรีได้มีมติ ให้ฟื้นฟูพระราชประเพณีนี้ขึ้นใหม่ และได้กระทำติดต่อเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน เว้นแต่ปี พ.ศ. 2563 – 2564 ประเทศไทยประสบสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคโควิด จึงมิได้มีการจัดงานพระราชพิธีฯ และได้เริ่มมีการจัดพระราชพิธีฯ ในรูปแบบปกติ เมื่อปี 2565 ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน

Message us