
เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน ที่ สภ.เมืองพิจิตร พ.ต.ต.พิษณุพล ยอดกระโหม สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิจิตร พนักงานสอบสวน ได้รับแจ้งความจากชาวบ้าน นำโดย นายวิเชียร คำเขียน อายุ 51 ปี ซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 14 ต.ป่ามะคาบ อ.เมือง จ.พิจิตร พาชาวบ้านทั้งหมดรวม 26 ราย เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนว่า ตนเองและพวกเป็นเกษตรกร มีที่ดินอยู่ในความครอบครองส่วนใหญ่มีเอกสารสิทธิ์เป็น นส.3.ก ซึ่งได้รับรู้ข่าวสารว่าทางราชการและนโยบายของรัฐบาล จะมีการเดินสำรวจเพื่อออกเอกสารสิทธิ์จาก นส.3.ก ให้เป็นโฉนดที่ดิน ชาวบ้านจึงไปติดต่อที่สำนักงานที่ดินจังหวัดพิจิตร
จากนั้นเมื่อประมาณเดือน เม.ย. 65 เป็นต้นมา ก็ได้มีนายช่างรังวัดปฏิบัติงาน เข้าไปติดต่อเจรจาว่า ถ้าจะให้มีการเดินสำรวจเพื่อออกเอกสารสิทธิ์จาก นส.3.ก ให้เป็นโฉนดที่ดิน ได้เร็วได้ชัวร์และจะต้องมีค่าใช้จ่ายต่างๆนาๆตั้งแต่หลักพันบาทไปจนถึงหลักหมื่นบาท ตามจำนวนพื้นที่ดินที่ต้องการออกโฉนด มีบางรายที่มีที่ดินแปลงใหญ่ก็ได้จ่ายไป 20,000-30,000 บาท เมื่อจ่ายเงินแล้ว ต่างก็เฝ้าทวงถามว่าเมื่อไหร่จะออกมารังวัดที่ดินให้ และเมื่อไหร่จะได้โฉนดที่ดินเสียที นายช่างรังวัดปฏิบัติงาน ก็ผลัดวันประกันพรุ่ง ไปหาที่ สนง.ที่ดินก็ไม่เจอตัว โทรศัพท์ติดต่อก็ไม่รับสาย ไม่ยอมโทรกลับมาพูดคุยเจรจาก่อนหนีหายเข้ากลีบเมฆ

ทั้งนี้ มีชาวบ้าน 26 รายที่ถูก นายช่างรังวัดที่ดินผู้นี้เรียกรับเงินไปยอดรวมมากถึง 187,000 บาท อีกทั้งก็ทราบว่า นอกจากนี้ก็ยังมี นางสนิท กะโห้ อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27/2 หมู่ 4 ต.สายคำโห้ อ.เมืองพิจิตร ที่ไปร้องทุกข์กับสื่อมวลชนและไปแจ้งความที่ สภ.เมืองพิจิตร ออกเป็นข่าวในท้องถิ่นว่าก็สูญเงินไป 27,000 บาท โดยมีหลักฐานเป็นการโอนเงินเข้าบัญชีของนายช่างรังวัดที่ดินคนนี้อีกด้วย ชาวบ้านของ ต.ป่ามะคาบ จึงรวมตัวและตัดสินใจพากันมาแจ้งความที่ สภ.เมืองพิจิตร
นายแสงชัย ธนพาณิชย์วัฒนา เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดพิจิตร เปิดเผยว่า ตนเองทราบเรื่องความประพฤตินายช่างรังวัดคนดังกล่าวแล้ว ซึ่งได้ตั้งกรรมการสอบวินัย โดยตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. ให้งดการปฏิบัติหน้าที่ในการออกรังวัดที่ดินของราษฎรตามโครงการออกโฉนดที่ดิน โดยให้เคลียร์เอกสารงานที่คั่งค้างอยู่ 20 รายการให้แล้วเสร็จ แต่นายช่างรังวัดคนนี้ ก็เข้ามาเซ็นต์ชื่อแล้วก็หนีหายหน้าเป็นแบบนี้ประจำ ต่อมาก็มีชาวบ้านมาร้องว่า นายช่างรังวัดคนนี้ ไปเรียกรับเงินใต้โต๊ะจนเป็นเรื่องหลายครั้งในฐานะที่เป็นผู้บังบัญชาก็ทำการอบรมสั่งสอน ให้หาเงินไปคืนผู้เสียหาย แต่ด้วยเพราะมีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก นายช่างรังวัดคนนี้จึงไม่มีเงินที่จะไปใช้คืน จนกลายเป็นดินพอกหางหมูยากเกินกว่าจะเยียวยาแล้ว ล่าสุดได้รายงานด้วยวาจาไปยัง นายพยนต์ อัศวพิชยนต์ ผู้ว่าฯพิจิตร ว่าจะเสนอลงโทษทางวินัยร้ายแรงให้ไล่ออก

เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดพิจิตร กล่าวย้ำว่า การเดินสำรวจรังวัดเพื่อออกโฉนดที่ดินเป็นนโยบายของรัฐบาล ดังนั้นหากจะมีค่าใช้จ่ายหรือค่าธรรมเนียมต้องเป็นการจ่ายเงินที่แผนกการเงินของ สนง.ที่ดินจังหวัดพิจิตร และต้องมีใบเสร็จออกให้เป็นหลักฐานเท่านั้น จึงจะถือว่าเป็นการจ่ายเงินที่ถูกต้อง ถ้าหากมีการไปจ่ายเงินกันเองนอกสำนักงานเพื่อกรณีใดๆก็ตาม ให้มีลางสังหรณ์ไว้ได้เลยว่าท่านกำลังถูกหลอก
ข่าว/ภาพ : สิทธิพจน์ พิจิตร ผู้สื่อข่าวจังหวัดพิจิตร
