
เมื่อวันที่15พ.ย.2565 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ถึงกระแส ส.ส.ย้ายออกจากพรรคประชาธิปัตย์ในช่วงนี้ ว่า ไม่หวั่นไหว เพราะทุกอย่างยังเดินหน้าตามเป้าหมายเดิมที่กำหนดไว้ เพราะยังไม่มีอะไรไปกระทบเป้าหมายหลัก และยิ่งใกล้เลือกตั้ง การย้ายพรรคก็มีกันทุกพรรค มีทั้งเข้าทั้งออกทุกพรรค ไม่มีพรรคไหนยกเว้น ก็เห็นกันอยู่
ทั้งนี้เมื่อถามถึงโอกาสในการได้ส.ส. ใน กทม. จะมีหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า เชื่อว่า กทม.พรรคประชาธิปัตย์มีผู้แทนแน่ในเที่ยวหน้า และตัวเลขภาพรวมเป้าหมายเราก็มากกว่าเดิมอยู่แล้ว ไม่มีอะไรมาทำให้กระทบเป้าหมายที่เรากำหนดไว้ตั้งแต่เดิม ภาคใต้คราวที่แล้วได้ 21-22 ที่นั่ง เที่ยวนี้ก็จะได้มากกว่า
เมื่อถามถึงแนวทางที่จะนำทัพเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้คนรักประชาธิปัตย์มากขึ้นนั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้เสียศรัทธาอะไร ยังแน่วแน่มั่นคงในอุดมการณ์ของความเป็นพรรค และก็ให้โอกาสทุกคน เพียงแต่บางท่านเมื่อทำโพลแพ้ ท่านไม่ได้รับเลือก เพราะฉะนั้นท่านก็ต้องไปหาที่ลงใหม่ ซึ่งประชาธิปัตย์ก็ไม่สามารถส่งผู้สมัครเขตเดียว 2 คนได้ เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ มันก็เหมือนทุกพรรคที่มีผู้สมัครหลายคน พรรคเลือกได้คนเดียว อีก 2 คน ถ้าประสงค์จะลง ส.ส. เขต ก็ต้องสังกัดพรรคใหม่ ก็เป็นเรื่องปกติตามรัฐธรรมนูญ แต่ถ้าถามว่าอยากให้ใครออกหรือไม่ ถ้าคนที่เขาหนักแน่น มีอุดมการณ์ เป็นคนที่สามารถมาช่วยสร้างสรรค์ประชาธิปัตย์ให้เติบโตต่อไปได้ ก็ไม่อยากให้ออก ก็ยังอยากให้อยู่ต่อไป
สำหรับที่มีบางคนมีความกังขาในเรื่องโพลนั้น เป็นเรื่องธรรมดา ที่คนแพ้กับคนชนะ อาจจะคิดต่างกัน ก่อนทำโพลก็อาจจะเห็นว่าควรทำโพล แต่พอทำไปเสร็จแล้วแพ้ ก็อาจจะรู้สึกว่าไม่อยากให้ทำโพล อันนี้เป็นเรื่องความเห็นส่วนบุคคล พรรคก็ต้องมีหลักของพรรคและการตัดสินใจของพรรค
“ผมยังเชื่อว่าประชาธิปัตย์ ยังไม่ได้ทำอะไรให้คนเสียศรัทธาหรอก แล้วก็ยังเดินขึ้น ผมมั่นใจว่าเลือกตั้งเที่ยวหน้า เสียงตอบรับจากประชาชนจะดีขึ้น กรุงเทพมหานครก็เช่นเดียวกัน ปักษ์ใต้ก็เหมือนกัน และรวมทุกภาคเลย” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
สำหรับเรื่องการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคประชาธิปัตย์นั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า เรื่องนี้ขอให้เป็นเรื่องที่กรรมการบริหารพรรคจะพิจารณาต่อไป สำหรับตนเองนั้นพร้อม หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ทุกคนต้องพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่งั้นสมาชิกพรรคไม่เลือกมาหรอก ถ้าวันหนึ่งมาเป็นแกนนำรัฐบาล แต่หัวหน้าพรรคไม่พร้อมเป็นนายกฯ สมาชิกพรรคเลือกไปก็เสียของ
“ผมพร้อม พร้อมทั้งประสบการณ์ การทำงาน อุดมการณ์ ความคิดความอ่าน ผลงาน ผมมั่นใจว่าผมพร้อม แต่ทั้งหมดไม่ได้อยู่ที่เรา อยู่ที่ประชาชน ต้องให้ประชาชนเขาเห็นชอบด้วย ซึ่งก็ต้องรอผลจากการเลือกตั้ง” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
สำหรับท่าทีของนายกรัฐมนตรีหลังการประชุมเอเปค จะมีความชัดเจนขึ้นในการประกาศจุดยืนทางการเมืองหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า อยู่ที่ตัวท่าน และต้องถามท่านว่าจะเป็นอย่างไร ส่วนจะกระทบพรรคอื่นหรือไม่กระทบอย่างไรนั้น ตอบไม่ได้ ประชาธิปัตย์เป็นตัวของตัวเอง ไม่ว่าจะเดินไปทิศทางไหนเราก็แน่วแน่มั่นคง ไม่มีอะไรวอกแวก ขอยืนยันว่าเราเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของประเทศในการเลือกตั้งเที่ยวหน้า
อย่างไรก็ตามเมื่อถามว่า ในรื่องการปรับ ครม. ก่อนที่จะมีการยุบสภา ประชาธิปัตย์ยังยืนยันหรือไม่ว่าควรจะมีการปรับในตำแหน่งที่ว่างอยู่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ ได้เสนอชื่อตัวบุคคลไปแล้ว คือนายนริศ ขำนุรักษ์ การเสนอชื่อแปลว่าพรรคประสงค์จะให้ปรับ โดยให้แต่งตั้งนายนริศ ไปแทนนายนิพนธ์ บุญญามณี ส่วนพรรคอื่นจะปรับหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับพรรคนั้นๆ ไม่จำเป็นต้องผูกพันกับประชาธิปัตย์ว่า ถ้าประชาธิปัตย์ปรับ พรรคอื่นก็ต้องปรับด้วย ซึ่งผู้ที่จะดำเนินการก็คือท่านนายกฯ
“ผมเสนอชื่อไปแล้ว ผมให้เกียรติท่าน ผมไม่สอบถาม แต่ว่าถ้ามันเนิ่นนานไป ผมคิดว่าท่านนายกฯ ทราบอยู่แล้ว ท่านนายกฯ เข้าใจดีอยู่แล้ว ให้เวลาท่านนิดนึงครับว่าจะเสนอเมื่อไหร่อย่างไร ผมคิดว่าหลังเอเปค เดาเอาว่าหลังเอเปคคงถึงความเหมาะความควรแก่เวลา” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว