
เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงานประชุมสัมมนามันสําปะหลังโลกปี 2566 (World Tapioca Conference 2023) และปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “นโยบายการบริหารจัดการมันสําปะหลังของไทย” โดยมี สมาคมชาวไร่มันสําปะหลังแห่งประเทศไทย สมาคมการค้ามันสําปะหลังไทย (TTTA) สมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสําปะหลังไทย (TTPFA) สมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสําปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(NETTA) และผู้แทนภาครัฐและเอกชนเข้าร่วม ที่มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีสุรนารี จ.นครราชสีมา
ทั้งนี้ เมื่อนายจุรินทร์เดินทางมาถึง มีเกษตรกรและชาวโคราชมารอรับจำนวนมาก มอบดอกไม้ชูป้ายให้กำลังใจ พร้อมขอถ่ายรูปเซลฟี่กับนายจุรินทร์ และอวยพรขอให้เป็นนายกรัฐมนตรีในสมัยหน้า บรรยากาศสุดคึกคัก
นายจุรินทร์ กล่าวว่า จังหวัดนครราชสีมาถือเป็นเมืองหลวงของมันสำปะหลัง เพาะปลูกและแปรรูปมากที่สุดในประเทศไทย งานนี้มี 5 กิจกรรม 1.สัมมนาเชิงวิชาการ 2. แลกเปลี่ยนข้อมูลประสบการณ์ด้านการค้ามันสำปะหลัง 3. นิทรรศการมันสำปะหลัง 4. การจับคู่เจรจาธุรกิจ และ 5. การลงนาม MOU ซื้อขายมันสำปะหลังไทยกับต่างประเทศ มีการลงนามกับ 3 ประเทศ 1)ฮ่องกง 2)ตุรกีและ3)จีน คิดเป็นปริมาณมันสำปะหลังสดเกือบ 5 ล้านตัน มูลค่าเกือบ 20,000 ล้านบาท เป็นครั้งที่ 2 ในรอบปี ที่กระทรวงพาณิชย์ เอกชน ผู้เกี่ยวข้องและตนนำผู้ซื้อจากต่างประเทศ ซื้อมันสำปะหลังไทยล็อตใหญ่ ก่อนนี้ได้พาฟิลิปปินส์มาซื้อ ประมาณ 5 ล้านตันหัวมันสด มูลค่าประมาณ 20,000 ล้านบาทที่ปากช่อง ปีนี้ขายล่วงหน้าหัวมันสดแล้ว 10 ล้านตัน สร้างเงินให้ประเทศไทยร่วม 40,000 ล้านบาท จะทำให้ราคามันสำปะหลังปีนี้ดีขึ้นมีช่องทางระบายไปตลาดต่างประเทศ เกิดผลดีกับเกษตรกร
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ประเทศไทยให้ความสำคัญกับมันสำปะหลังเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นพืชเกษตรที่ปลูกมากเป็นลำดับที่ 3 ของโลก ประเทศไนจีเรียผลิตประมาณปีละ 63 ล้านตัน คองโกประมาณปีละ 46 ล้านตันและไทยปีละ 30 ล้านตัน มีเกษตรกร กว่า 500,000 ครัวเรือนทำไร่มันสำปะหลัง และการส่งออกมันสำปะหลังประเทศไทยถือเป็นประเทศที่ส่งออกลำดับหนึ่งของโลก ปี 65 ส่งออกหัวมันสด 37 ล้านตัน ทำเงินให้ประเทศ 4,400 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 150,000 ล้านบาท บวกถึง 11%
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรฯและตน ได้กำหนดยุทธศาสตร์มันสำปะหลังไทย 5 ปี ตั้งแต่ 64-67 ทั้งการผลิต การตลาดและการแปรรูป เพื่อกำหนดทิศทางที่ชัดเจนพามันสำปะหลังไทยก้าวหน้าในเวทีโลก ด้านการผลิต มีการวิจัยพัฒนา สร้างท่อนพันธุ์ที่มีศักยภาพ ต้านทานโรคใบด่าง ตั้งเป้าผลผลิตไม่น้อยกว่า 5 ตันต่อไร่ ภายในปี 67 จะเพิ่มผลผลิตต่อปีจาก 30 ล้านตันเป็น 40 ล้านตัน สนองความต้องการของโลก ด้านการแปรรูป มุ่งเน้นทั้งมันเส้น แป้งมัน สาคู ในอนาคตจะเพิ่มอีกหลายชนิดที่มีศักยภาพครองตลาดโลกมากขึ้น เช่น ไบโอพลาสติก อาหาร เครื่องดื่ม กาว กระดาษ แป้งมันปลอดกลูเตนที่ได้รับความนิยมมากขึ้น เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับโลก ด้านการตลาดจะจับมือกับเอกชนเปิดตลาดใหม่ เช่น ฟิลิปปินส์ที่สำเร็จแล้ว และตุรกี นิวซีแลนด์ นอกจากจีนที่เป็นตลาดหลัก
นอกจากนั้น กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรฯ รัฐบาลยังมีนโยบายเร่งรัดยกระดับราคามันสำปะหลัง ถือเป็นยุคหนึ่งที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง อดีตกิโลกรัมละบาทกว่า ยุคนี้ ราคาพุ่งต่อเนื่อง 2 ปีเต็ม วันนี้ที่เชื้อแป้ง 25% ราคามัน 3.15-3.50 บาท/กก. แต่ถ้าวันไหนราคาตกต่ำกว่ากิโลกรัมละ 2.50 บาท มีประกันรายได้เกษตรกร จ่ายเงินชดเชยให้เกษตรกรโอนเงินส่วนต่างเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง ตามรายได้ที่ประกันให้หลักประกันกับเกษตรกรผู้ปลูกเพื่อมีรายได้พอยังชีพ ไม่เลิกการปลูกมันสำปะหลัง และให้ประเทศไทยเป็นคลังมันสำปะหลังป้อนโลกต่อไปในอนาคตอย่างยั่งยืน
“การประชุมครั้งนี้จะเป็นเวทีสำคัญให้ทุกประเทศที่ร่วมประชุมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ประสบการณ์กำหนดทิศทางอนาคตมันสำปะหลังไทยและโลกต่อไปในอนาคตประเทศไทยพร้อมให้ความร่วมมือกับทุกประเทศในโลกที่เกี่ยวกับการผลิต การแปรรูปและการตลาดมันสำปะหลัง ประเทศไทยมีนโยบายทิศทางชัดเจนในการผลิตมันสำปะหลังคุณภาพได้มาตรฐานป้อนโลก และสร้างความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมโลกต่อไป” นายจุรินทร์