เมื่อวันที่ 25ธ.ค.2565 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรค ดูแลภาคเหนือ และนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ร่วมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ทั้ง 5 เขตการเลือกตั้ง ประกอบด้วย นายจักษ์ พันธ์ชูเพชร อดีตผู้ช่วยอธิการบดี มหาวิทยาลัยนเรศวร นายพงษ์มนู ทองหนัก รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก นางสาวมุธิตา ทองคำนุช อดีตผู้สมัคร ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ นายคณิศร มาดี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองกระท้าว และนายวันชัย ทิมชม สาธารณสุข และ นายจุติ ที่จะลงสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ
ทั้งนี้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนชาวพิษณุโลกมาให้การต้อนรับ พร้อมให้กำลังใจมอบดอกไม้ คล้องพวงมาลัยให้ นายจุรินทร์ รวมถึงมาขอถ่ายรูป เซลฟี่ และอวยพรให้นายจุรินทร์เป็นนายก รัฐมนตรี
นายจุรินทร์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวช่วงหนึ่งว่า แม้การเลือกตั้งครั้งล่าสุดพรรคประชาธิปัตย์จะไม่ได้ผู้แทนจากจังหวัดพิษณุโลก แต่อย่างน้อยหลังการเลือกตั้งปี 62 มีผู้แทนราษฎรจากพิษณุโลกไปทำหน้าที่ในสภาฯและเป็นรัฐมนตรีโดยการสนับสนุนของพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อตอบแทนพี่น้องชาวพิษณุโลก คือนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ทั้งนี้ปีหน้าจะเป็นปีแห่งการเลือกตั้ง รัฐบาลครบเทอมวันที่ 23 มีนาคม 2566 ถ้าอยู่ครบจะมีการเลือกตั้งประมาณวันที่ 7 พฤษภาคม 2566 อีก 4 เดือนครึ่ง แต่สมมติเกิดอุบัติเหตุมีการยุบสภา ต้องเลือกตั้งภายใน 45 ถึง 60 วัน นับจากวันที่ยุบสภา คนมีอำนาจยุบสภาคือนายกรัฐมนตรี และเที่ยวหน้าพิษณุโลกมีผู้แทนได้ 5 คน 5 เขต ซึ่งนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ในยุคนี้ที่ช่วยเหลือเกษตรกรจำนวนมาก คือโครงการประกันรายได้เกษตรกรในพืช 5 ชนิด เป็นหลักประกันให้กับเกษตรกร
อย่างไรก็ตาม ถ้าพืชเกษตรราคาตกจะมีเงินส่วนต่างโอนเข้าบัญชี ธ.ก.ส.โดยตรง ซึ่งเป็นนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์และเป็นเงื่อนไขในการเข้าร่วมรัฐบาล ในโครงการประกันรายได้ เฉพาะส่วนเงินส่วนต่างที่คนพิษณุโลกผู้ปลูกข้าว 78,000 ราย ซึ่งสามปีกว่าโอนเงินเข้ากระเป๋าชาวนาพิษณุโลกไปแล้ว 4,200 ล้านบาท เฉลี่ยได้ครอบครัวละ 53,000 บาท เป็นผลงานในช่วง 3 ปีกว่าที่ผ่านมา
นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า เมื่อเกษตรกรมีเงินในกระเป๋าก็มาจับจ่าย ร้านค้าก็มีรายได้ ผลพลอยได้ทางเศรษฐกิจมหาศาลจากนโยบายประกันรายได้ รวมทั้งการส่งออก ถ้าส่งออกดีเงินเข้ามาในประเทศ จะได้เงินมาทำงบประมาณแผ่นดินดูแลรักษาพยาบาล สร้างโรงเรียน ทำถนน สะพาน ไฟฟ้า ประปาดูแลพี่น้อง และสำหรับพิษณุโลกประกันรายได้ต้องเดินต่อถ้าประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลเที่ยวหน้า พิษณุโลกจะต้องเป็นฮับทางด้านการศึกษาทันสมัย ฮับด้านเศรษฐกิจการลงทุน คมนาคมและที่สำคัญคือการท่องเที่ยวที่ต้องเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวภาคเหนือตอนล่างทำเงินให้พิษณุโลกและพวกเราทุกคนต่อไป
